CEO INSIGHT

‘ชูรัชฏ์ ชาครกุล’ มั่นใจตลาดบ้านฟื้น เผยกลยุทธ์พัฒนาบ้านรับไลฟ์ไตล์ลูกค้าเปลี่ยน

“ชูรัชฏ์ ชาครกุลลลิล” เอ็มดี “ลลิล พร็อพเพอร์ตี้” มั่นใจตลาดบ้านฟื้น เดินหน้าลุยพัฒนาโครงการรับเทรนด์ใหม่ผู้บริโภค พร้อมทุ่ม 2,000 ล้านเปิดตัว 3 โครงการรวด

จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดแนวโน้มของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย การผ่อนคลายมาตรการ และการเปิดประเทศ จึงกลายเป็นสัญญาณบวกที่สดใสของธุรกิจอสังหาฯ โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่อาศัย

ชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ

นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ (LALIN) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลงในปัจจุบันส่งผลให้ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทั้งตลาดบ้านฟื้นตัว และอาคารชุด

สอดคล้องกับที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้รายงานล่าสุดว่า อุปทานการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่จะเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยบ้านแนวราบยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อบ้านอย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากในปี 2564 มีการชะลอการเปิดโครงการและเลื่อนมาเปิดในปี 2565

เปิดกลยุทธ์ลลิลฯ มุ่งพัฒนาโครงการรับเทรนด์ผู้บริโภค 

สำหรับ ลลิลฯ ได้พัฒนาโครงการ โดยให้ความสำคัญกับการตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคพร้อมรับเทรนด์ที่เปลี่ยนไปอยู่เสมอ เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

Clubhouse

ตัวอย่างเช่น การเพิ่มพื้นที่ภายในบ้านให้มีขนาดที่กว้างขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยในแต่ละครอบครัวให้มีความยืดหยุ่น โดยใช้งานได้จริง มีห้องอเนกประสงค์ไว้รองรับให้สามารถ Work From Home ,Study Online หรือแม้กระทั่งปรับมาเป็นห้องผู้สูงอายุรับสังคมสูงวัยในอนาคตได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังเพิ่มพื้นที่สีเขียวบริเวณส่วนกลางให้มากขึ้น เพื่อลดการเกิดปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้ลูกค้าได้ใช้งานอย่างคุ้มค่า

จากแผนงานที่วางไว้ ทำให้บริษัทมีความมั่นใจ และพร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการบ้านป้อนสู่ตลาดในปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าที่ 10-12 โครงการตลอดปี รวมมูลค่าประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท

ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด เราไม่เคยหยุดนิ่ง โดยเฉพาะการพัฒนาปรับโฉมแบบบ้านดีไซน์บ้านเดี่ยวในกลุ่มแบรนด์แลนซีโอ โดยวางแนวคิดพัฒนาโครงการใหม่เพื่อให้ตรงใจผู้บริโภค

Maingate

นอกจากนี้ ลลิลฯ ยังได้สร้างกระแสนิยมบ้าน French Colonial Style ฉีกกรอบการดีไซน์บ้านในกลุ่มเรียลดีมานด์ โดยเน้นการยกระดับเพิ่มมูลค่า พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ในการอยู่อาศัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Perfection of Living ความสมบูรณ์แบบที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ภายในโครงการจะมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ไว้รองรับไลฟ์สไตล์ในวันพักผ่อน พร้อมฟิตเนสวิวสวน ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และคัดสรรวัสดุตกแต่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างวิถีการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน

ทุ่ม 2,000 ล้านเปิดตัว 3 โครงการใหม่รับตลาดฟื้น

ทั้งนี้ 3 โครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ แลนซีโอ จาก ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกอบด้วย

1. โครงการบ้านเดี่ยวแลนซีโอ คริป 2 ปิ่นเกล้า-พระราม 5 ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 13 ไร่ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท มีเพียง 66 หลัง พื้นที่ใช้สอย 3 ห้องนอน พร้อมระเบียงชมวิว, 1 ห้องอเนกประสงค์, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องรับแขก พร้อมที่จอดรถ 2 คัน ราคาเริ่มต้น 4-7 ล้านบาท

2. โครงการบ้านเดี่ยวแลนซีโอ คริป 2 รัตนาธิเบศร์ ท่าอิฐ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 14 ไร่ มูลค่าโครงการ 420 ล้านบาท บ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ มีเพียง 68 หลัง พื้นที่ใช้สอย 3 ห้องนอน พร้อมระเบียงชมวิว,1 ห้องอเนกประสงค์, 3 ห้องน้ำ,1 ห้องรับแขก ที่จอดรถ 2 คัน ราคาเริ่มต้น 4.79-7 ล้านบาท

โถงด้านล่าง

3. โครงการลลิลทาวน์ ชัยพฤกษ์-ไทรน้อย ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 52 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์แลนซิโอ คริป รวม 114 ยูนิต ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 4-7 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮมแบรนด์ไลโอ รวม 344 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท

นายชูรัชฏ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ ได้พัฒนาบ้านในทุกระดับราคาของกลุ่มเรียลดีมานด์  real demand ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยสูงสุดในปัจจุบัน และพร้อมจะพัฒนาแนวคิด การออกแบบและฟังก์ชัน ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในแต่ละช่วงอย่างเหมาะสม เพื่อเพิ่มมูลค่าโครงการในอนาคต

ทั้งนี้คาดว่า จากแนวคิดการดำเนินธุรกิจดังกล่าว และตลาดบ้านฟื้นตัว จะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้ที่ 7,200 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo