CEO INSIGHT

เปิดใจซีอีโอ ‘อีสท์ วอเตอร์’ กับการจัดการน้ำในภาคตะวันออก

เปิดใจซีอีโอ อีสท์ วอเตอร์ “เชิดชาย ปิติวัชรากุล” หลังไม่ได้บริหารท่อส่งน้ำสายหลักภาคตะวันออก จากกรมธนารักษ์ ประกาศชัดลูกค้าผู้ใช้น้ำไม่ได้รับผลกระทบ ยังมีน้ำส่งให้ตลอดเวลา แจ้งข่าวดีส่งผ่านถึงลูกค้า ยันไม่ปรับขึ้นค่าน้ำแน่นอนปี 2567 

ด้วยประสบการณ์การบริหารจัดการนํ้าในภาคตะวันออกมายาวนาน ของ อีสท์ วอเตอร์ หรือ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) ทำให้ภาคตะวันออกกลายเป็นต้นแบบการบริหารจัดการน้ำที่สมบูรณ์ของประเทศไทย ด้วยการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง พร้อมก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง ในการบริหารจัดการน้ำ

อีสท์ วอเตอร์ ได้นำแนวคิดการสร้างระบบน้ำสู่ความยั่งยืนด้วย 3W มาให้บริการแก่ผู้ใช้น้ำ โดยมีหลักการคือ ขยาย Water Grid สู่ Water Network และเน้นการใช้น้ำทุกหยดอย่างคุ้มค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย Water Complex เพื่อสร้างความมั่นคงของระบบสาธารณูปโภคด้านน้ำให้กับเศรษฐกิจของประเทศ

แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าหลังจาก อีสท์ วอเตอร์ พ่ายแพ้ในการประมูล และไม่สามารถเข้ามาบริหารจัดการท่อส่งน้ำสายหลัก ทั้ง 3 เส้น คือโครงการท่อส่งน้ำดอกกราย โครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่องส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง จากกรมธนารักษ์ อีสท์ วอเตอร์ ผู้บริหารโครงการและระบบท่อรายเดิม ต้องส่งมอบทรัพย์สิน (ท่อส่งน้ำ-ที่ดิน-อาคาร และสิ่งปลูกสร้าง) คืนกรมธนารักษ์แล้ว การดำเนินธุรกิจจะเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบกับผู้ใช้น้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าของอีสท์ วอเตอร์ แค่ไหนเรื่องนี้

นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อีสท์ วอเตอร์  ยืนยันถึงผู้ใช้น้ำหรือลูกค้าของ อีสท์ วอเตอร์ พร้อมให้ความมั่นใจ มีน้ำส่งให้เพียงพอ พร้อมกับประกาศ ไม่ปรับค่าน้ำอุตสาหกรรมจะยังตรึงราคาในปี 2567 ไม่อยากให้ลูกค้ากังวลในเรื่องนี้

ในปี 2567 จะไม่มีการปรับค่าน้ำอุตสาหกรรมจะยังตรึงราคาอยู่  สำหรับลูกค้าหรือผู้ใช้น้ำของอีสท์ วอเตอร์

เปิดใจซีอีโอ

เปิดใจซีอีโอ อีสท์ วอเตอร์

นายเชิดชาย บอกด้วยว่า โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำสายหลักทดแทนท่อส่งน้ำเดิม การวางท่อส่งน้ำทั้ง 3 โครงการ จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในระยะเวลาอันใกล้ เพื่อให้ส่งผลกระทบกับผู้ใช้น้ำของอีสท์ วอเตอร์ น้อยที่สุด หากก่อสร้างแล้วเสร็จความยาวของท่อส่งน้ำสายหลักประมาณ 526 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา มีแผนพัฒนาศักยภาพการสูบส่งน้ำไปยังพื้นที่อื่นๆ อีกด้วย ความคืบหน้าโครงการ ดังนี้

1. โครงการท่อส่งน้ำดิบหนองปลาไหล-หนองค้อ-แหลมฉบัง ในพื้นที่จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรี สามารถรองรับการส่งน้ำได้ 350,000 ลบ.ม./วัน มากกว่าเดิม ทำให้ส่งน้ำไปให้พื้นที่ชลบุรี ได้อย่างเพียงพอ เพื่อรองรับความต้องการน้ำที่เพิ่มขึ้นหรือในกรณีเกิดภัยแล้ง เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยังยืน ความยาวกว่า 57.1 กิโลเมตร โดยเชื่อมต่อกับท่อส่งน้ำสายหลักประแสร์ – หนองปลาไหลเดิม ของอีสท์ วอเตอร์

2. โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบคลองหลวง-ชลบุรี เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร มายังอ่างเก็บน้ำหนองค้อ แทนการผันน้ำผ่านคลองพานทอง ความยาวกว่า 49 กิโลเมตร โดยเชื่อมต่อจากท่อส่งน้ำสายหลักปลวกแดง-บ่อวิน ความคืบหน้าโครงการวางท่อแล้วเสร็จ 42 กิโลเมตร ในส่วนที่เหลืออีก 7 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการขออนุญาตให้วางท่อในพื้นที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่ง อีสท์ วอเตอร์ พร้อมดำเนินการ

เปิดใจซีอีโอ

3. โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำดิบมาบตาพุต-สัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพิ่มศักยภาพในการส่งน้ำให้แก่ภาคอุปโภค บริโภค และท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ความยาวกว่า 27 กิโลเมตร โดยเชื่อมต่อระบบท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-มาบตาพุต เส้นที่ 2

โครงการท่อส่งน้ำทั้ง 3 โครงการข้างต้น จัดเป็นระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำที่มีขนาดใหญ่ของอีสท์ วอเตอร์  คู่ขนานไปกับท่อส่งน้ำสายหลักของกรมธนารักษ์ ที่เชื่อมโยงกับการส่งน้ำของภาคตะวันออก

ฉะนั้นแม้ อีสท์ วอเตอร์ ไม่ได้เป็นคู่สัญญาการส่งน้ำกับกรมธนารักษ์แล้ว ความพร้อมที่มีอยู่ จึงไม่ได้สร้างปัญหากับการส่งน้ำให้กับลูกค้าที่อยู่ในมือเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมีความยาวของส่งท่อน้ำมากที่สุด

การดำเนินงานในปี 2567 อีสท์ วอเตอร์ ยังคงมุ่งมั่นเป็นผู้นำในการสร้างความมั่นคงของการจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำครบวงจรของประเทศด้วยสมาร์ทเทคโนโลยี ให้ความสำคัญกับผู้ใช้น้ำเป็นหลัก และจะสามารถสร้าง Water Grid ที่มั่นคง และแข็งแกร่งที่สุดในภาคตะวันออก รองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่ EEC สร้างการเติบโต และแข็งแกร่งให้แก่พื้นที่ภาคตะวันออกอย่างยั่งยืนตลอดไป

เปิดใจซีอีโอ

ตลอด 31 ปีที่ผ่านมา อีสท์ วอเตอร์ มีแผนเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำต้นทุน ทั้งระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว เพื่อสร้างเสถียรภาพของระบบโครงข่ายท่อส่งน้ำมากกว่า 22,000 ล้านบาท เชื่อมโยงแหล่วน้ำสำคัญในภาคตะวันออก ทำให้อีสท์ วอเตอร์ สามารถบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมพื้นที่อีอีซี ลดความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำในภาวะแล้งหรือฝนทิ้งช่วง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้น้ำในอีก 20 ปีข้างหน้า

เปิดใจซีอีโอ อยู่กับ อีสท์ วอเตอร์ แล้วหมดห่วง!

สำหรับลูกค้าผู้ใช้น้ำปัจจุบัน นายเชิดชาย ย้ำว่ายังอยู่กับอีสท์ วอเตอร์ทุกคน ยังไม่มีใครยกเลิกสัญญา  ลูกค้าอาจจะซื้อทั้ง 2 รายก็ได้ทั้งของอีสท์ วอเตอร์ และวงษ์สยาม ที่สำคัญเราต้องบอกกับลูกค้าว่า “ถ้าอยู่กับ อีสท์ วอเตอร์ แล้วหมดห่วง เพราะอีสท์ วอเตอร์ เราเชื่อมกับแหล่งน้ำ 8 แหล่ง มีใบอนุญาตทั้งหมดแล้ว ถ้าน้ำขาดก็เอาจากประแสร์ ได้ ในส่วนของจังหวัดชลบุรี เราก็เอาจากบางประกงมาเก็บไว้สำรองได้” นี่คือสิ่งที่อีสท์ วอเตอร์ ทำไว้แล้ว

นอกจากนี้ อย่างพื้นที่สูง อีสท์ วอเตอร์ ได้สร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2-3 แสนคิว เวลาไฟดับ ก็จะสามารถใช้ได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้แก้ไขทันระบบเดิมไม่ได้มี ที่รับโอนจากกรมธนารักษ์ ไม่ได้มีแหล่งน้ำสำรอง อย่างที่มาบตาพุดมีตั้งท่อ 2 เส้น ก็มีแหล่งน้ำสำรอง ที่มาบข่า 2 แสนคิว เวลาไฟดับก็สามารถจ่ายได้ หรือถ้าฉุกเฉินก็มีท่อ 2 เส้น ถ้าแตกรั่วจนต้องปิด อีกเส้นก็ใช้ได้ และมีแหล่งน้ำที่เพิ่มมาจากทับมา มีความจุประมาณ 12 ล้านลบ.ม. สามารถสูบน้ำได้ทั้งปีประมาณ 50 ลบ.ม. ทำให้ตรงนี้เป็นจุดสำรองอีกจุดหนึ่ง

เปิดใจซีอีโอ

เปิดใจซีอีโอ รายได้ไม่ได้ลดลง แต่กำไรอาจจะลดลง

นายเชิดชาย อธิบายถึงรายได้ของอีสท์ วอเตอร์ ว่านอกจากน้ำดิบก็คือ น้ำประปา น้ำดิบรายได้ประมาณ 70% น้ำประปา 30% แต่เริ่มมีน้ำอุตสาหกรรมประมาณ 5% อีสท์ วอเตอร์ มีแชร์ส่วนแบ่งน้ำในอีอีซี ประมาณ 30-40 % ส่วนความต้องการใช้ต่อวันน้ำจังหวัดระยองก็จะเยอะสุด เช่น อู่ตะเภา นิคมอุตสาหกรรม Smart City ที่จะเข้ามา แล้วก็จังหวัดชลบุรี ก็จะเป็นไทยออยล์ ปลวกแดง ก็จะเพิ่มมา นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ โรงเหล็กของจีน

โดยปี 2567 ความต้องการอาจจะลดลงประมาณ 20% ก็คงจะกระทบกับรายได้เหมือนกัน แต่อีสท์ วอเตอร์ ยังมีรายได้ที่จะมาชดเชยกับอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่จะทำสัญญากัน  ประมาณการไว้ว่ารายได้ปี 2567 ไม่น่าจะต่ำกว่าปี 2566 แม้จะต้องโอนทรัพย์สิน และที่มาบตาพุด  แต่มีรายได้ส่วนหนึ่งมาชดเชยเรื่องของน้ำอุตสาหกรรม และคอนแทรคใหม่ๆ เรียกว่ารายได้ไม่ได้ลดลง แต่กำไรอาจจะลดลง เพราะเรื่องค่าไฟฟ้า และเรื่องทรัพย์สินที่ต้องโอนคืน ต้องตัดต่อท่อ ต้องมีการลงทุนเพิ่ม

เปิดใจซีอีโอ

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight