“การบินไทย” สั่งจับตาสถานการณ์ “ราคาน้ำมัน” พุ่งพรวด หากต้นทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คงต้องวัด “ความอึด” กับคู่แข่ง ใครจะยอมปรับขึ้น “ค่าตั๋ว” ก่อนกัน
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2562 การบินไทยมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (Low Season) ปีนี้ การบินไทยเดินหน้าทำการตลาดและออกโปรโมชั่นเต็มที่ ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดี แต่ก็ยอมรับว่าการทำโปรโมชั่นส่งผลให้กำไรต่อหน่วย (Yield) ปรับตัวลดลง
ด้านไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) นั้น การบินไทยไม่กังวลเรื่องปริมาณผู้โดยสารและเส้นทางการบิน “แต่ทำยังไงให้เกิดรายได้มากที่สุด” โดยขณะนี้การดำเนินธุรกิจมีปัจจัยเสี่ยงหลักๆ 2 ด้าน คือ อัตราแลกเปลี่ยนและราคาน้ำมัน
จับตา “คู่แข่ง”
นายสุเมธกล่าวถึงปัจจัยด้านอัตราแลกเปลี่ยนว่า ปัจจุบันค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้รายได้ปรับตัวลดลง เช่น การบินไทยขายตั๋วได้ 100 บาท แต่เมื่อหักอัตราแลกเปลี่ยนแล้วก็จะทำให้รายได้หายไป 5 บาท เป็นต้น
สำหรับต้นทุนน้ำมันก็มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น จากเหตุการณ์โดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกในประเทศซาอุดีอาระเบียนั้น ล่าสุดราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ 66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จึงต้องจับตาดูราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้การบินไทยได้ทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน (Hedging) ไว้ระดับหนึ่งแล้ว
แต่ถ้าหากราคาน้ำมันสูงขึ้นและมีผลกระทบมากกว่านี้ ก็อาจจะต้องพิจารณาต้นทุนใหม่ทั้งหมด แต่ยอมรับว่าหากราคาน้ำมันสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจต้องปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง (Fuel surcharge) ซึ่งบวกรวมอยู่ในราคาตั๋วค่าโดยสาร
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบินไทยเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องดูภาพรวมของอุตสาหกรรมและคู่แข่งด้วยว่า จะปรับขึ้นราคาหรือไม่ อย่างไร แล้วมาพิจารณาต้นทุนของบริษัท แต่การบินไทย “เราก็ยังอึดอยู่ได้ระดับนึงนะ”
“มันก็ต้อง Monitor หมด อุตสาหกรรมนี้มันแข่งขัน เขาไม่ขึ้นราคา เราไม่ขึ้น ก็ต้องทนกันไป แต่ถ้าเราเปิดขึ้นก่อน ทุกคนก็ขึ้นตาม หรือคนอื่นขึ้น เราก็ขึ้นตาม แต่บอกรายละเอียดไม่ได้ เพราะมันเป็นความลับทางการค้า ซึ่งถ้าเราขึ้น ก็อาจจะขยับในส่วนของค่า Surcharge คืออย่ากังวลมาก เราเองรู้ผลกระทบมันอยู่แล้ว” นายสุเมธกล่าว
ส่งแผนจัดหาฝูงใหม่บินเข้าบอร์ด
นายสุเมธกล่าวต่อว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยในวันที่ 24 กันยายน 2562 จะมีวาระสำคัญ 2 เรื่อง วาระแรกจะเป็นการเสนอแผนการจัดหาเครื่องบินจำนวน 38 ลำ วงเงิน 1.56 แสนล้านบาทให้ที่ประชุมบอร์ดพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้บอร์ดมอบหมายให้ฝ่ายบริหาร ไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อตอบคำถามต่างๆ ให้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น แล้วนำเรื่องกลับมารายงานต่อที่ประชุมบอร์ดอีกครั้ง
จากนั้นการบินไทยจะเสนอเรื่องให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาในเดือนกันยานหรือตุลาคม 2562 และเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาตามลำดับ โดยยอมรับว่าคงต้องเลื่อนเป้าหมายการเสนอเรื่องเข้า ครม. จากเดิมในเดือนนี้ เป็นเดือนตุลาคม 2562 แทน แต่รายละเอียดของแผน จำนวนเครื่องบิน และวงเงินการจัดหายังคงเท่าเดิม
ทั้งนี้ นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแลการบินไทย ได้กำชับให้บริษัทตอบคำถามเรื่องโครงการจัดหาเครื่องบินอย่างรอบคอบและครบถ้วน เพราะนายถาวรมีหน้าที่ต้องตอบคำถามกับประชาชนและสภาผู้แทนราษฎร
”ท่านรัฐมนตรีช่วยถาวร ท่านทราบกรอบในการจัดหา เพราะมันยึดตามมติ ครม. เดิม ในขณะเดียวกันท่านมีคำถามว่า ทำไมเรามีลำตัวแคบ ลำตัวแคบบินยังไง Operate ยังไง การมีลำตัวแคบเราจะไปแข่งขันกับสายการบินอื่นได้ไหม ซึ่งวันนี้ก็ต้องเรียนว่า วันนี้เราถูกเบียดตลาดแรงมาก เพราะฉะนั้นก็ต้องทำให้ผู้ที่อนุมัติแล้วแก่ใจ เราเองก็ไม่อยากจะผิดพลาดเหมือนในอดีตที่ผ่านมาแล้ว เราก็ต้องมีความระมัดระวังด้วยสถานทางการเงินของเรา ที่เราต้องเข้มงวดเรื่องพวกนี้มากๆ” นายสุเมธกล่าว
เร่งสรุปแผนขาย “เครื่องบินปลดระวาง”
นอกจากนี้ในวันที่ 24 กันยายน 2562 บอร์ดการบินไทยจะพิจารณาเรื่องแผนการเช่าเครื่องบินจำนวน 3 ลำ เพื่อมาเสริมฝูงบินปัจจุบัน โดยบริษัทเคยเสนอเรื่องนี้ให้บอร์ดพิจารณาไปแล้ว 1 ครั้ง แต่บอร์ดให้ไปจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมและนำกลับมาเสนอใหม่
สำหรับกรณีที่การบินไทยอยู่ระหว่างการเจรจาขายเครื่องบินที่ปลดระวางจำนวน 8 ลำ มูลค่า 4,000 ล้านบาทนั้น ล่าสุดคู่ค้าได้ขอข้อมูลเรื่องการซ่อมบำรุงเพิ่มเติมและรับปากว่าจะให้คำตอบได้ภายในสัปดาห์นี้ แต่ถ้าหากยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเร็วๆ นี้ การบินไทยก็ต้องจำกัดเวลาในการเจรจา เพราะต้องพิจารณาตารางการซ่อมบำรุงเครื่องบินด้วย
เปิดตัวอี-คอมเมิร์ซเดือนหน้า
นายสุเมธกล่าวต่อว่า การบินไทยยังตั้งเป้าหมายจะเปิดตัวธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ทั้งแพลตฟอร์มเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2562 โดยล่าสุดได้จ้าง Loylogic เป็นผู้บริหารธุรกิจอี-คอมเมิร์ซให้แล้ว
นอกจากนี้ การบินไทยจะร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในการส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะการนำสินค้าโอทอปมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในช่วงเดือนเมษายน 2563 ตามนโยบายของนายถาวร เสนเนียม
น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปัจจุบันกรมฯ มีสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) อยู่ทั่วโลกกว่ากว่า 60 แห่ง ซึ่งทูตพาณิชย์จะเข้ามาช่วยส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซของการบินไทย รวมทั้งจะช่วยเชื่อมโยงสินค้าโอทอปจากชุมชนในโครงการโอทอปซีเลคและโอทอปพรีเมียม มาวางบนแพลตฟอร์มของการบินไทย รวมทั้งให้เชื่อมต่อไปยัง www.thaitrade.com เพื่อทำโปรโมชั่นร่วมกันต่อไปด้วย
- ครึ่งปีแรก ‘การบินไทย’ ขาดทุนอ่วม 6.4 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 16 เท่า!
- ‘บอร์ดบินไทย’ สั่งทำข้อมูลเรื่อง ‘จัดหาฝูงบิน’ เพิ่มเติม อุดรูรั่วข้อซักถาม
- ‘ถาวร’ จี้ ‘บอร์ดบินไทย’ ประเมินผลงานตัวเอง
- รื้อใหญ่ ‘ไทยสมายล์’ คาดช่วย ‘บินไทย’ ขาดทุนลดลง 2 พันล้าน
- ‘เครื่องเก่าแลกเครื่องใหม่’ หนึ่งในวิธีจัดหาฝูงบิน 38 ลำของ ‘การบินไทย’
- เปิดหนังสือ ‘บินไทย’ ร่อนถึงผู้บริหารขอความร่วมมือลดค่าตอบแทน 10% ช่วยองค์กร
- ราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง กดดันตลาดหุ้น
- น้ำมันพุ่ง 10% หวั่นโจมตีโรงกลั่นซาอุฯ กระทบจัดหาโลก