World News

ราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง กดดันตลาดหุ้น

ราคาน้ำมันซื้อขายในตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ (17 ก.ย.) ปรับตัวลงมาเล็กน้อย จากการที่สหรัฐให้คำมั่นถึงความเป็นไปได้ที่จะปล่อยน้ำมันดิบสำรองออกสู่ตลาด แต่ภัยคุกคามจากแนวโน้มที่อาจเกิดปฏิบัติการทางทหาร เพื่อตอบโต้การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย ยังทำให้ราคาทรงตัวในระดับสูง และสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้น

ถังน้ำมัน

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ในตลาดเอเชีย ล่าสุดปรับลงมา 1.78% ที่  67.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากที่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) ราคาพุ่งไปถึง 14.6% เป็นการทะยานขึ้นแรงสุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซนต์ อย่างน้อยตั้งแต่ปี 2531 เป็นต้นมา

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท รร่วงลง 1.92% ที่ 61.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากที่เมื่อวานนี้พุ่งขึ้นไป 14.7% ครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551

สถานการณ์ด้านน้ำมัน สร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้น โดยดัชนีนิกเคอิ ตลาดโตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดลดลง 23.55 จุด หรือ 0.11% ที่ 21,964.74 จุด และ ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงลดลง 248.64 จุด หรือ 0.92% ที่ 26,875.91 จุด

ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อคืนนี้ ที่ 27,076.82 จุด ลดลง 142.70 จุด หรือ 0.52% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,997.96 จุด ลดลง 9.43 จุด หรือ 0.31% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,153.54 จุด ลดลง 23.17 จุด หรือ0.28%

ราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้น ทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และอาจนำไปสู่การตอบโต้กันในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้นานาชาติรวมตัวกันเพื่อตอบโต้อิหร่าน เพราะเชื่อว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงงานน้ำมันในครั้งนี้

นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 17-18 กันยายนนี้ ที่คาดกันว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบที่แล้วในวันที่ 30-31 กรกฎาคม ซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2551

Avatar photo