CEO INSIGHT

ผลงานโดดเด่น-วิสัยทัศน์กว้างไกล ดัน ‘สาระ ล่ำซำ’ คว้ารางวัล ‘นักการเงินแห่งปี 2566’

“สาระ ล่ำซำ” คว้ารางวัล นักการเงินแห่งปี ประจำปี 2566 จาก “วารสารการเงินธนาคาร” ซึ่งเป็นการครองตำแหน่งเป็นครั้งที่ 2 ด้วยคุณสมบัติของการเป็นนักการเงินแห่งปีครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การพิจารณาทั้ง 4 ด้าน

เป็นเวลา 41 ปีแล้วที่ วารสารการเงินธนาคาร ได้มอบรางวัลเกียรติยศ “นักการเงินแห่งปี” (Financier of the Year) เพื่อยกย่องผู้บริหารระดับสูงของธนาคาร สถาบันการเงิน บริษัทประกัน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ที่มีผลงานโดดเด่น มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ทันสมัย สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตก้าวหน้าและยั่งยืนในทุกสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม

สำหรับในปีนี้ คณะกรรมการตัดสินรางวัลนักการเงินแห่งปี ได้กลั่นกรอง และพิจารณาอย่างเข้มข้น จึงลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์มอบรางวัลเกียรติยศ “นักการเงินแห่งปี” ประจำปี 2566 ให้กับ นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

สาระ ล่ำซำ

ด้วยผลงานที่โดดเด่นผ่านคุณสมบัติการเป็นนักการเงินแห่งปี ตามหลักเกณฑ์ 4 ด้าน

  • นักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย
  • นักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ
  • นักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตและยั่งยืนให้กับองค์กร
  • นักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม

“สาระ ล่ำซำ” นักการเงินที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและทันสมัย

นายสาระ ล่ำซำ เป็นผู้บริหารบริษัทประกันชีวิตคนแรก ที่ได้รับรางวัล “นักการเงินแห่งปี” เมื่อปี 2556 และในปีนี้ ได้กลับมาครองตำแหน่ง นักการเงินแห่งปี ประจำปี 2566 อีกครั้ง ด้วยผลงานโดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด 19 ภาคธุรกิจประกันชีวิตได้เผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างมาก

ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันชีวิตไทย นายสาระ จึงมีบทบาทสำคัญในการทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยเป็นผู้ริเริ่มให้มีกระบวนการเสนอขายประกันในรูปแบบ Digital Face to Face เพื่อรองรับกับมาตรการรักษาระยะห่าง (Social Distancing) ระหว่างลูกค้ากับผู้เสนอขาย ทำให้กระบวนการเสนอขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นในช่วงโควิด

สาระ ล่ำซำ

นอกจากนี้ ยังมีบทบาทในการออกข้อปฏิบัติ “เคลมประกันโควิด-19” สำหรับผู้ทำประกันภัยที่ติดเชื้อโควิด ของบริษัทประกันชีวิต เพื่อเป็นแนวทางที่ชัดเจนให้ลูกค้ามีความเข้าใจในเรื่องการจ่ายเคลม เป็นการสร้างความอุ่นใจ และความน่าเชื่อถือให้กับผู้เอาประกันภัย ที่ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เมื่อติดเชื้อโควิด

หลังจากมีกระบวนการ Digital Face to Face และการออกประกาศข้อปฏิบัติ เคลมประกันโควิด-19 ส่งผลให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตไทยตั้งแต่ปี 2562 มีเบี้ยรับรวม และเบี้ยรับใหม่ของการประกันสุขภาพเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10% สะท้อนถึงความรู้ความสามารถ และวิสัยทัศน์ของนายสาระ ที่ช่วยยกระดับให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตเติบโตได้แม้ว่าจะประสบภาวะวิกฤติโควิด

เขายังเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ของภาคธุรกิจประกันชีวิต โดยประกาศบังคับใช้กฎหมายใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และกฎหมายระดับสากล ซึ่งมีการทำงานร่วมกับคปภ. เพื่อยกระดับมาตรฐานของภาคธุรกิจประกันชีวิตให้เติบโตได้อย่างมั่นคง และยั่งยืน ระหว่างผู้ทำประกันภัยและบริษัทประกันชีวิต

นักการเงินมืออาชีพที่มีความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ

นายสาระ เป็นผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการบริหารการเงินและการลงทุนมากว่า 30 ปี โดยมุ่งหวังให้ประชาชนเข้าถึงการทำประกันชีวิต และส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนทุกกลุ่ม มีความรู้ทางการเงินและคุณภาพชีวิตที่ดี (Financial & Insurance Literacy) ในการสร้างความมั่นคงและคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย และมุ่งหวังให้ตอบโจทย์ความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าเป็นสำคัญ (Outside In) แบบรายรายบุคคล

เขายังเป็นผู้นำที่บริหารองค์กรที่คำนึงถึงจริยธรรม และการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นผู้มีส่วนสำคัญที่ทำให้เมืองไทยประกันชีวิต ได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณ “จรรยาบรรณดีเด่น” ทั้งหมด 3 ครั้งจากหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยในปี 2548 ปี 2562 และ ปี 2565

ส่งผลให้ นายสาระ ได้รับการยอมรับในความเป็นผู้นำที่มีความเป็นมืออาชีพ มีความรู้ความสามารถ และความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ จนได้รับความไว้วางใจจากบริษัทสมาชิกคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมประกันชีวิตถึง 6 สมัย

ส่วนในเวทีระดับสากล นายสาระ ได้รับเกียรติจากผู้ประกอบการธุรกิจของแต่ละประเทศให้ดำรงตำแหน่ง “Tthe Chapter Chair of YPO Gold (Thailand)” หรือประธานกรรมการ YPO Gold (Thailand) สมาคมไทยแลนด์ แชปเตอร์ ยัง เพรสซิเดนท์ส ออร์แกนไนเซชั่น อิงค์ ซึ่งเป็นกลุ่มสังคมชุมชนระดับโลก ที่เกิดจากการรวมตัวระหว่างเจ้าของผู้ประกอบกิจการในแต่ละประเทศ ในการแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ และนวัตกรรมขององค์กรที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

สาระ ล่ำซำ

นักการเงินที่สร้างความเจริญเติบโตให้กับองค์กร

ผู้บริหารของเมืองไทยประกันชีวิตรายนี้ เป็นผู้ริเริ่มในการ ปรับภาพลักษณ์องค์กร ให้มีความสดใส ทันสมัย และเป็นสากลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ภายใต้สโลแกน “Happiness Means Everything: เพราะความสุขคือทุกอย่าง” โดยมีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ ปรับโลโก้ให้มีรูปลักษณ์โค้งมน สื่อสารผ่านสีที่หลากหลายสะท้อนถึงความสดใส เข้าถึงง่าย สร้างความใกล้ชิดของลูกค้า

หลังจากที่ นายสาระ ได้มุ่งมั่นพัฒนาขยายธุรกิจของเมืองไทยประกันชีวิตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ อัตราการเติบโตเฉลี่ยของเบี้ยรับรวม (CAGR Growth) ตั้งแต่ปี 2547-2565 สูงถึง 13%

จากเดิมที่เมืองไทยประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันขนาดเล็ก เคยอยู่ในอันดับที่ 8 ของภาคธุรกิจ ในช่วงที่เขาเริ่มบริหารช่วงแรก ๆ ปัจจุบันได้ก้าวเป็นบริษัทประกันขนาดใหญ่ระดับชั้นนำของประเทศ ที่มีผลงานเบี้ยรับรวมแตะระดับสูงสุดที่ 100,000 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 ของภาคธุรกิจประกันชีวิต

ไม่เพียงแต่ธุรกิจในประเทศ นายสาระ ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการริเริ่มขยายธุรกิจประกันชีวิตไทยไปสู่ กลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งปัจจุบันมีส่วนอันดับทางการตลาดเป็นอันดับต้น ๆ ของภาคธุรกิจในประเทศกัมพูชา และลาว

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทมีสินทรัพย์รวมกว่า 600,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิสูงถึง 5,700 ล้านบาทเป็นอันดับต้น ๆ ของภาคธุรกิจ มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนมากกว่า 300% สูงกว่าที่ระดับเกณฑ์ขั้นต่ำที่ภาคธุรกิจกำหนดไว้ที่ 140% และมีจำนวนกรมธรรม์ที่มีผลบังคับ และดูแลให้กับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตเกือบ 3,000,000 กรมธรรม์

สาระ ล่ำซำ

นักการเงินที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และทำคุณประโยชน์ต่อส่วนรวม

ภายใต้การนำของนายสาระ เมืองไทยประกันชีวิตได้ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงิน และเติมเต็มชีวิตของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์ตลอดช่วงชีวิต นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลักการ ESG ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และ บรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance & Economic)

โดยมีการกำหนดกลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ผสมผสานแนวคิด ESG กับการดำเนินธุรกิจ “Embedding Sustainability into Our Own Operation” เพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย มีความสุขอย่างยั่งยืนในทุกมิติ และเพื่อมุ่งเป็น “Leading Sustainable Insurer” ที่จะมีบทบาทสำคัญในการบรรลุความสำเร็จของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ของสหประชาชาติ

ล่าสุด นายสาระ เป็นผู้ที่ผลักดันแนวคิดการตอบแทนเพื่อสังคมของเมืองไทยประกันชีวิต ให้ก้าวสู่ “Creating Shared Value” (CSV) หรือ “การสร้างคุณค่าร่วมกันของสังคม” ผ่านแนวคิด “MTL Share” ที่มุ่งการสร้างคุณค่าของการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากจะสร้างคุณค่าให้กับสังคม และสิ่งแวดล้อมแล้ว จะมีการสร้างกระบวนการใหม่ให้สามารถสร้างคุณค่าจากสินค้า หรือการบริการของธุรกิจให้กับสังคมร่วมด้วย

นายสาระ ยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการร่วมกำหนด และจัดทำกรอบการกำกับดูแลกิจการที่ดีที่ใช้ในการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจให้มีความโปร่งใสและมีความน่าเชื่อถือ โดยจะมีแนวทางที่เป็นกลไกในการควบคุมภายใน การเปิดเผยข้อมูล และการตรวจสอบที่มีประสิทธิผล ผ่านการแบ่งแยกอำนาจหน้าที่ระหว่างฝ่ายกำกับดูแล และฝ่ายบริหารที่ชัดเจน ตลอดจนมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดย่อย เพื่อช่วยทำหน้าที่ในการกลั่นกรองในมิติต่างๆ ของการประกอบของเมืองไทยประกันชีวิต

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo