อินโดนีเซีย กลายเป็นประเทศล่าสุดในเอเชีย ที่เจอกับการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ) โรคระบาดรุนแรง ที่สร้างความเสียหายอย่างหนัก ให้กับเกษตรทั่วทั้งภูมิภาคมาแล้ว
กระทรวงเกษตรอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า จนถึงเมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) มีหมูตายเพราะเชื้อเอเอสเอฟแล้วเกือบ 30,000 ตัว ในเขตสุมาตราเหนือ
แม้เชื้อไวรัสชนิดนี้ ที่เชื่อว่าทำให้หมูในจีนตายไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งของหมูที่เลี้ยงไว้ในประเทศนั้น จะไม่มีอันตรายต่อมนุษย์ แต่ก็สามารถทำให้หมูตายได้เพียงในเวลาไม่กี่วันหลังการติดเชื้อ และอัตราการตายของหมูที่ติดเชื้ออาจพุ่งขึ้นเป็น 100% ได้
ข้อเท็จจริงดังกล่าว สร้างความกังวลให้กับหลายประเทศ และพากันจัดหามาตรการรับมือ และป้องกันโรคนี้กันอย่างมาก
ตัวอย่างเช่น ออสเตรเลีย ที่มีความกังวลในเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และทางการได้เพิ่มมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคนี้หลุดเข้ามาในประเทศ
อย่างไรก็ดี เชื้อไวรัสชนิดนี้ค่อนข้างจะทนทาน สามารถอยู่รอดได้นานถึง 7 วัน แม้จะไม่ได้อยู่ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตอื่นก็ตาม และสามารถมีชีวิตอยู่ในนานหลายเดือนในเนื้อหมูแช่แข็ง
ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากสุดจากโรคเอเอสเอฟในขณะนี้ คือ จีน แต่การที่เชื้อไวรัสแพร่กระจายไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็สร้างความกังวลไม่แพ้กัน โดยเวียดนาม และฟิลิปปินส์ เป็น 2 ประเทศที่มีการระบาดของโรคนี้รุนแรงสุดในภูมิภาคนี้
นักวิเคราะห์จากเรโบแบงก์ คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์เนื้อหมูของเวียดนามในปีนี้ จะลดลงมาราว 21% และจะน้อยลงไปอีก 8% ในปีหน้า ส่วนฟิลิปปินส์จะมีจำนวนหมูในประเทศลดลง 13% ในปี 2563 และคาดว่า จำนวนหมูในจีนหายไปแล้วราว 55%
นายไซอาห์รุล ยาซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ การระบาดของโรคยังจำกัดอยู่ในพื้นที่สุมาตราเหนือ ซึ่งทางการได้ดำเนินมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวดมากขึ้น รวมถึง การปิดพื้นที่ดังกล่าวด้วย
ที่ผ่านมา มีรายงานการแพร่ระบาดของโรคเอเอสเอฟ ทั้งในมองโกเลีย กัมพูชา เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือ เมียนมา และติมอร์ตะวันออก ส่วนนอกเอเชียนั้น มีรายงานการพบโรคในพื้นที่บางส่วนของยุโรปตะวันออก และซับซาฮารา แอฟริกา
รับมือเนื้อหมูแพงต่อเนื่อง
การระบาดของโรคนี้ ยังส่งผลให้ราคาเนื้อหมูทั่วเอเชียปรับตัวสูงขึ้น และในบางกรณี ยังทำให้เงินเฟ้อทะยานสูงขึ้น
ตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดที่จีนเผยออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ แสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมา 4.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเร็วสุดในรอบ 9 ปี โดยที่ราคาเนื้อหมูเป็นสาเหตุหลักของการทะยานขึ้นดังกล่าว
ขณะที่ ฟิทช์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ บอกว่า ราคาขายส่งในจีนเพิ่มขึ้นมาเกือบ 2 เท่าในปีนี้ และมองเห็นแนวโน้มราคาเนื้อหมูในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ทางด้านทอมมี อู๋ นักเศรษฐศาสตร์จากอ็อกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิคส์ แสดงความเห็นว่า มีแนวโน้มที่ราคาเนื้อหมูจะพุ่งสูงขึ้นไปอีกช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
อย่างไรก็ดี นายอู๋ชี้ว่า ข่าวดีสำหรับเรื่องนี้อยู่ตรงที่ว่า ความพยายามที่จะสร้างความมั่นคงทางชีวภาพของจีน ได้เริ่มที่จะแสดงผลให้เห็นแล้ว แต่การที่จะฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับปกติได้นั้น อาจต้องใช้เวลานานอีกหลายปี
- ‘เงินเฟ้อ’ จีนพุ่งสุดรอบ 8 ปี เหตุ ‘ราคาเนื้อหมู’ เพิ่ม 2 เท่า
- จีนเพิ่มเงินช่วยเหลือเกษตรกร เจอผลกระทบ ‘อหิวาต์หมูระบาด’
- จีนห้ามนำเข้าหมูเกาหลีใต้ หวั่นโรคระบาด
- จีนเปิดประมูล ‘เนื้อหมูสำรอง’ หมื่นตัน สกัดราคาพุ่ง
- จับตา!! ราคาเนื้อหมูโลกจ่อพุ่งแรง เหตุจีนเร่งนำเข้า หลังเจออหิวาต์หมูระบาด
- เกาหลีใต้ยืนยันพบ ‘อหิวาต์แอฟริกาหมู’ ระบาดครั้งแรก