ราคาผู้บริโภคในจีน ขยายตัวในอัตราเร็วสุดในรอบเกือบ 8 ปี เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผลจากการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ) ที่ทำให้ราคาเนื้อหมูพุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่า
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (เอ็นบีเอส) เปิดเผยในวันนี้ (10 ธ.ค.)ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อสำคัญ ทะยานขึ้นมาอยู่ที่ 4.5% ในเดือนที่แล้ว จากระดับ 3.8% ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2555 ทั้งยังสูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ราว 4.3%
การระบาดเป็นวงกว้างของโรคเอเอสเอฟ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทำให้จีนตกอยู่ในภาวะขาดแคลนเนื้อหมู อาหารหลักของชาวจีน ส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นไปถึง 110.2% ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
จำนวนสุกรในประเทศที่ลดลงไปราว 40% ยังทำให้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางการจีนได้ประกาศแผนฟื้นฟูการผลิตเนื้อหมู ให้กลับขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับก่อนหน้าที่จะเกิดการระบาดของโรคเอเอสเอฟ ภายในปี 2564
วิกฤติเนื้อหมูที่เกิดขึ้น ยังส่งผลให้ราคาเนื้อวัว เนื้อแกะ และไข่ทะยานสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะผู้บริโภคหันไปหาแหล่งโปรตีนอื่นแทนเนื้อหมู
ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดสำคัญสำหรับภาคอุตสาหกรรม ในการประเมินราคาสินค้าหน้าโรงงาน แสดงให้เห็นว่าเดือนที่แล้ว มีราคาปรับลดลงมา 1.4%
แม้การลดลงดังกล่าวจะน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.5% แต่ก็เป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน บ่งชี้ให้เห็นถึงภาวะซบเซาอย่างต่อเนื่องในจีน ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
