เกาหลีใต้รายงานวันนี้ (17 ก.ย.) พบการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (เอเอสเอฟ) เป็นครั้งแรก กลายเป็นประเทศล่าสุดที่เจอกับโรคระบาดนี้ ที่ทำให้ไล่ตั้งแต่จีน ไปจนถึงเกาหลีเหนือ ต้องสังหารหมูไปแล้วเป็นจำนวนมาก และทำให้ราคาเนื้อหมูแพงขึ้นทั่วโลก
เจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตร เกาหลีใต้ เปิดเผยว่า พบหมูตาย 5 ตัวที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองปาจู ใกล้กับเขตแดนเกาหลีเหนือ ซึ่งจากการตรวจสอบยืนยันได้ว่า หมูที่ตายติดเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกา
“ยังเร็วเกินไปที่จะยืนยันว่า เชื้อไวรัสดังกล่าวมีที่มาจากเกาหลีเหนือหรือไม่ ”
ขณะที่นายคิม ฮุน โซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เกาหลีใต้ ระบุว่า ทางการได้สั่งกำจัดหมู 3,950 ตัว จากฟาร์มหมู 3 แห่งในเมืองปาจูไปแล้ว
การค้นพบการติดเชื้อดังกล่าว ยังทำให้เกาหลีใต้ยกระดับการเตือนภัยโรคระบาดในสัตว์ ขึ้นสู่ระดับสูงสุด พร้อมสั่งห้ามการเคลื่อนย้ายหมูทั่วประเทศนาน 48 ชั่วโมง
ถึงแม้ไวรัสชนิดนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อคน แต่ก็ทำให้หมูมีอาการไข้สูง ผิวหนังแดง มีจุดเลือด และมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ ก่อนตายเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสชนิดนี้ และวิธีเดียวที่จะป้องกันเชื้อแพร่ระบาดได้ คือ การกำจัดหมูที่ติดเชื้อ และมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อทั้งหมด
แม้ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบเชื้อไวรัสเอเอสเอฟในเกาหลีใต้ แต่ที่ผ่านมาเกาหลีใต้ก็เคยเจอกับโรคระบาดสัตว์มาแล้วจำนวนหนึ่ง รวมถึง โรคไข้หวัดนก เมื่อปี 2557 ที่ทำให้ต้องกำจัดไก่ทิ้งมากกว่า 500,000 ตัว
การยืนยันถึงการพบหมูติดเชื้อเอเอสเอฟ ในเกาหลีใต้ ยังเกิดขึ้นหลังเมื่อราว 3 เดือนที่แล้ว รัฐบาลเกาหลีเหนือได้แจ้งต่อองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (โอไออี)ว่า หมูหลายสิบตัวตาย ที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง ใกล้กับชายแดนจีน ตายเพราะโรคระบาด
ขณะที่องค์การอาหาร และเกษตรแห่งสหประชาชาติ ออกมาบอกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ราคาเนื้อหมูทั้งในจีน และตลาดซื้อขายโภคภัณฑ์ล่วงหน้าชิคาโก ของสหรัฐ ทะยานขึ้นถึง 50% ผลจากการเกิดโรคระบาดดังกล่าว
