COVID-19

วิจัยชี้ ทิ้งระยะ 8 เดือน ฉีดเข็มกระตุ้น ‘ซิโนแวค’ ภูมิคุ้มกันพุ่งสูง

ผลวิจัยล่าสุดชี้ “ซิโนแวค” เข็ม 3 หรือเข็มกระตุ้น มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิด-19 มากขึ้น หากเว้นห่างหลายเดือนจากเข็ม 2

ผลวิจัยล่าสุด ที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ “เดอะ แลนเซ็ต” ระบุว่า การเว้นระยะเวลาที่นานขึ้น ระหว่างการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของซิโนแวค เข็มที่ 2 และเข็มที่ 3 หรือเข็มกระตุ้นนั้น จะเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ได้มากกว่าการเว้นระยะเวลาที่สั้นลง

บรรดานักวิจัยจากบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค, มหาวิทยาลัยฟูตัน และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระดับภูมิภาคหลายแห่งระบุว่า ประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 (บูสเตอร์) หลังจากที่ได้รับเข็ม 2 ไปแล้วเป็นเวลา 8 เดือนนั้น มีระดับภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับประชาชนที่ได้รับวัคซีนเข็มบูสเตอร์ ภายใน 2 เดือนหลังจากที่ได้รับเข็มที่ 2

shutterstock 1905639958

ขณะที่ผลวิจัยพบว่า หลังจากการฉีดวัคซีนโคโรนาแวค (CoronaVac) ครบสองโดสแล้วเป็นเวลา 6 เดือนนั้น ประสิทธิภาพของวัคซีน ในการป้องกันโควิด-19 ได้ลดลงอย่างมากนั้น การฉีดวัคซีนโดสที่ 3 หลังจากฉีดโดส 2 แล้วเป็นเวลา 8 เดือนนั้น ได้ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก

การวิจัยดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้เร่งฉีดวัคซีนบูสเตอร์ให้กับประชาชน เนื่องจากมีการตรวจพบไวรัสโอมิครอน ซึ่งเป็นไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่สามารถแพร่เชื้อได้มากขึ้น

ขณะที่บางประเทศ เช่น เกาหลีใต้ได้ร่นระยะห่างระหว่างการฉีดเข็ม 2 กับเข็ม 3 ลงเหลือเพียง 3 เดือนนั้น ผลการวิจัยกลับระบุว่า การเร่งฉีดวัคซีนโดส 3 อาจจะไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุดสำหรับวัคซีนเชื้อตายอย่างของซิโนแวค

ส่วนนายอูกูร์ ซาฮิน ซีอีโอของบริษัทไบโอเอนเทค ได้รับรองกลยุทธ์การร่นระยะห่างของการฉีดวัคซีนเข็มสองกับเข็มบูสเตอร์

ขณะที่วัคซีนซิโนแวคยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการเจ็บป่วยที่รุนแรง และการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 แต่กลับมีความสามารถน้อยกว่า ในการป้องกันการติดเชื้อ และการเกิดโรคที่แสดงอาการที่เกิดจากสายพันธุ์ดั้งเดิม และสายพันธุ์เดลตา เมื่อเทียบกับวัคซีนชนิด mRNA

ทั้งนี้ มีการใช้วัคซีนของซิโนแวคกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดทั่วโลก โดยมีการส่งมอบไปยังประเทศกำลังพัฒนาแล้วเป็นส่วนใหญ่ราว 2.3 พันล้านโดส และซิโนแวคกำลังทำการวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน

ดร.หวัง หัวชิง หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างภูมิคุ้มกันโรค ที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งประเทศจีนกล่าวในการบรรยายสรุปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ประชาชนราว 38 ล้านคนได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้วในประเทศจีน

ส่วนฮ่องกงได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมาให้กับกลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งได้รับวัคซีนของซิโนแวค โดยผลการวิจัยที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ยังบ่งชี้ด้วยว่า ประชาชนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ได้รับภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ในระดับที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับกลุ่มประชาชนที่มีอายุ 18-59 ปี

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo