นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศห้ามชาวต่างชาติทุกคนเข้าประเทศ ตั้งแต่ 30 พ.ย.นี้ เป็นต้นไป กังวลการแพร่ระบาดของ สายพันธุ์โอไมครอน พร้อมปรับเป็นระดับสูงสุด พบการระบาดในหลายประเทศ เตรียมปิดประเทศ ไม่รับชาวต่างชาติเข้าประเทศรายใหม่ ทั้งนักธุรกิจ และนักศึกษาต่างชาติ
เว็บไซต์เจแปนไทมส์รายงาน ว่าญี่ปุ่นวางแผนที่จะปิดพรมแดนอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาใหม่ รวมทั้งนักเดินทางเพื่อธุรกิจ นักศึกษาต่างชาติ และนักศึกษาฝึกงานชาวต่างชาติ แหล่งข่าวของรัฐบาล กล่าวเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากความกลัวว่าจะมีไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เพิ่มสูงขึ้น
มีรายงานว่าแผนดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อชาวต่างชาติที่กลับเข้ามาใหม่ในญี่ปุ่นและชาวญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี ฟุมิโอะ คิชิดะ จะประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงบ่าย
รัฐบาลยังไม่ได้ประกาศตรวจพบกรณีใด ๆ ของตัวแปรโอไมครอน แต่พบสายพันธุ์นี้ในยุโรปและออสเตรเลีย เนื่องจากมีประเทศต่างๆ จำนวนมากขึ้นได้กำหนดข้อจำกัดการเดินทางเพื่อพยายามปิดตัวเอง
สถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติของญี่ปุ่น ได้ยกระดับการแจ้งเตือนตัวแปร coronavirus เกี่ยวกับโอไมครอน เป็นระดับสูงสุด เนื่องจากความเครียดยังคงแพร่กระจายไปทั่วโลก
สถาบันกำหนดให้ omicron ซึ่งก่อนหน้านี้เป็น “ตัวแปรที่น่าสนใจ” ซึ่งสูงเป็นอันดับสองจากระดับการแจ้งเตือนสามระดับ – เป็น “ตัวแปรที่น่าเป็นห่วง”
สายพันธุ์เดลต้าที่มีการติดเชื้อสูงยังอยู่ในรายชื่อตัวแปรที่น่าเป็นห่วงของสถาบัน การกำหนดวันอาทิตย์เป็นไปตามการจัดประเภทโอไมครอนขององค์การอนามัยโลกในวันศุกร์ซึ่งเป็นข้อกังวลที่แตกต่างกัน
สถาบันญี่ปุ่น กล่าวว่า Omicron มีการกลายพันธุ์ของโปรตีนขัดขวางประมาณ 30 ครั้ง ซึ่งสามารถทำให้มันแพร่เชื้อและดื้อต่อวัคซีนได้มากขึ้น
ญี่ปุ่นวางแผน ที่จะปิดพรมแดนอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาใหม่ รวมถึงนักเดินทางเพื่อธุรกิจ นักศึกษาต่างชาติ และนักศึกษาฝึกงานชาวต่างชาติ แหล่งข่าวของรัฐบาล กล่าวเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากความกลัวว่าจะมีรูปแบบใหม่เพิ่มขึ้น
เมื่อวันอาทิตย์ที่ญี่ปุ่นได้เพิ่มโมซัมบิก มาลาวี และแซมเบีย ในรายชื่อประเทศที่อยู่ภายใต้กฎการเข้าประเทศที่เข้มงวดยิ่งขึ้น หลังจากมีการค้นพบตัวแปรใหม่นี้ หลังจากที่เริ่มกำหนดให้นักเดินทางที่เคยไปประเทศในแอฟริกาอย่างบอตสวานา, เอสวาตินี, เลโซโท, นามิเบีย, แอฟริกาใต้ หรือซิมบับเวใช้เวลา 10 วัน ในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนดเมื่อเดินทางมาถึงตั้งแต่วันเสาร์
ในช่วง 10 วัน ผู้เดินทางจากประเทศที่กำหนดต้องทำการทดสอบ coronavirus ในวันที่ 3 , 6 และ 10 หลังจากเดินทางมาถึง
ขณะที่เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ญี่ปุ่นเริ่มอนุญาตให้เข้าใหม่ เช่น นักศึกษาต่างชาติและการฝึกงานด้านเทคนิคเป็นครั้งแรกในรอบเกือบปี โดยต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งจะลดลงเหลือ 10 วัน หากได้รับการฉีดวัคซีน แต่ด้วยภัยคุกคามจากสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งอาจแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ คาดว่าประเทศชาติจะกระชับข้อจำกัดการเข้าประเทศอีกครั้ง
การย้ายครั้งนี้น่าจะเป็นข่าวร้าย สำหรับนักศึกษาต่างชาติโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีชาวต่างชาติเข้ามาใหม่มากที่สุด โดยหลายคนเริ่มงานเอกสารเพื่อมาญี่ปุ่นแล้ว หลังจากเรียนทางไกลจากประเทศบ้านเกิดเป็นเวลานานกว่าหนึ่งปี
ขณะที่สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศแผนการห้ามชาวต่างชาติทุกคนเข้าประเทศตามหลักการ ตั้งแต่วันอังคาร (30 พ.ย.) เป็นต้นไป เนื่องด้วยความกังวลเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน
คิชิดะให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่ามติดังกล่าวมีเป้าหมายหลีกเลี่ยงสถานการณ์โรคระบาดอันเลวร้ายที่สุด พร้อมเสริมว่า “นี่เป็นมาตรการชั่วคราวจนกว่าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน จะชัดเจนกว่านี้”
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นสั่งระงับข้อยกเว้นการเดินทางเข้าประเทศที่บังคับใช้กับผู้เคยเดินทางเยือน 9 ประเทศในแอฟริกา ได้แก่ บอตสวานา เอสวาตินี เลโซโท มาลาวี โมซัมบิก นามิเบีย แอฟริกาใต้ แซมเบีย และซิมบับเวแล้ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ระบาดหนัก!! ‘แคนาดา-ฝรั่งเศส’ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ‘โอไมครอน’
- ‘อิสราเอล’ สั่งปิดประเทศ ไม่รับทุกชาติ หลังเจอคนติด ‘โอไมครอน’
- ทำความรู้จัก ‘โอไมครอน’ โควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำทั่วโลก ‘หวาดผวา’