‘เวียดนาม’ เปิดรับ ‘นักท่องเที่ยวต่างชาติ’ กลุ่มแรกรอบ 20 เดือน

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 18 พฤศจิกายน 2564

จังหวัดกว๋างนามทางตอนกลางของเวียดนาม ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 29 คน ซึ่งเป็นกลุ่มนักเดินทางขาเข้า ที่ไม่ต้องกักตัวกลุ่มแรกของประเทศในรอบ 20 เดือน ท่ามกลางความพยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยว ในยุคหลังข้อจำกัดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นักเดินทางต่างชาติกลุ่มแรก ที่เดินทางเข้ามาในเวียดนาม ในรอบ 20 เดือนนี้ มาจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และสหรัฐ โดยจะเข้าร่วมแพ็คเกจท่องเที่ยว ที่ครอบคลุมเที่ยวบิน และที่พักในจังหวัดกว๋างนาม ภายใต้โครงการยกเว้นการกักตัว สำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ครบโดสแล้ว

จังหวัดกว๋างนาม ยังมีกำหนดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มอีก 300 คน ภายใต้โครงการพาสปอร์ตวัคซีนของรัฐบาลเวียดนาม โดยพนักงานภาคการท่องเที่ยวทุกคนตามรีสอร์ต และสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ได้รับเลือกเข้าร่วมโครงการทดลองนี้ล้วนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้ว

ทั้งนี้ จังหวัดกว๋างนามเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างเมืองโบราณฮอยอัน ถือเป็นหนึ่งใน 5 พื้นที่แรก ที่ได้รับอนุญาตให้รองรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดส ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ร่วมกับจังหวัดกว๋างนิญทางตอนเหนือ เมืองดานัง และจังหวัดคั้ญฮหว่าทางตอนกลาง รวมถึงจังหวัดเกียนซางทางตอนใต้

สื่อท้องถิ่นระบุว่า เกาะฟูก๊วก ในจังหวัดเกียนซาง จะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 200 คน ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ (20 พ.ย.) ภายใต้โครงการดังกล่าวเช่นกัน โดยนับเป็นนักเดินทางต่างประเทศกลุ่มแรก ที่มาเยือนเกาะแห่งนี้หลังจากการท่องเที่ยวท้องถิ่นหยุดชะงักไปนานเกือบ 2 ปี

ที่ผ่านมา เวียดนามสั่งปิดพรมแดน และระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมด ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน สืบเนื่องจากการระบาดใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเปิดให้เดินทางเข้าประเทศ เฉพาะชาวเวียดนามที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ และแรงงานทักษะขั้นสูง พร้อมบังคับใช้ข้อกำหนดการกักตัวบางส่วน

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) ระบุว่า ในปี 2563 เวียดนามมีนักเดินทางต่างชาติเข้าประเทศมากกว่า 3.8 ล้านคน ลดลงถึง 78.7% จากสถิติสูงสุด 18 ล้านคนในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเปิดประเทศเต็มปีรอบสุดท้ายก่อนเผชิญโรคระบาดใหญ่

อ่านข่าวเพิ่มเติม