“แอสตร้า เซนเนก้า” เปิดผลทดลอง “ยารักษาโควิด” ขั้นสุดท้าย ชี้ ลดความเสี่ยง ที่จะทำให้เกิดอาการป่วยหนัก หรือเสียชีวิต อันเป็นผลลัพธ์ที่จะช่วยหนุนความพยายามของบริษัท ในการพัฒนายาสำหรับเชื้อไวรัสโควิด โดยที่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะวัคซีนเท่านั้น
ยักษ์ใหญ่เวชภัณฑ์อังกฤษ “แอสตร้าเซนเนก้า” เปิดเผยในวันนี้ (11 ต.ค.) ว่า ผลการทดลองขั้นสุดท้าย ยาค็อกเทล AZD7442 เพื่อรักษาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของบริษัทนั้น ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
โดยสามารถลดความเสี่ยง ที่จะเกิดอาการป่วยอย่างรุนแรง หรือ การเสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ถึง 50% สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และมีอาการป่วยไม่เกิน 7 วัน ซึ่งผลที่ได้มานี้ ถือว่า บรรลุเป้าหมายหลักในการพัฒนายาของบริษัท
แอสตร้าเซนเนก้า เล็งขออนุมัติใช้ยารักษาโควิดต่อ อย.สหรัฐ
ทั้งนี้ การทดลองยาดังกล่าวเกิดขึ้นใน 13 ประเทศ และมีผู้ใหญ่ที่เข้าร่วมการทดลองมากกว่า 900 คน โดยที่กลุ่มตัวอย่างครึ่งหนึ่งได้รับยา AZD7442 ส่วนที่เหลือได้รับยาปลอม
นายเมเน แพนกาลอส รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา ด้านชีวเภสัชกรรมของยักษ์ใหญ่เวชภัณฑ์อังกฤษรายนี้ กล่าวว่า การใช้ยาแอนติบอดีของบริษัท ในการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยลดอาการป่วยที่รุนแรงลงได้ และยังป้องกันต่อไปได้อีกกว่า 6 เดือน โดยบริษัทจะนำข้อมูลการทดลองนี้ ไปหารือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่อไป
ยักษ์ใหญ่เวชภัณฑ์อังกฤษรายนี้ ยังพัฒนายาแอนติบอดีค็อกเทลนี้ขึ้นมา เพื่อใช้กับผู้ที่ร่างกายมีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนได้ไม่ดีพอ โดยบริษัทได้ยื่นขออนุมัติการใช้งานยาชนิดนี้เป็นกรณีฉุกเฉิน จากหน่วยงานกำกับดูแลด้านสาธารณสุขของสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- วิจัยชี้ ‘ฉีดวัคซีน Astrazeneca’ เกิด ‘ภาวะลิ่มเลือด’ ยาก แต่ตายสูง
- ‘Astrazeneca’ เปิดผลวิจัยล่าสุด ชี้ ปลอดภัยเทียบเท่าชนิด ‘mRNA’
- ศาลอินเดีย สั่งรัฐเยียวยา 2.2 หมื่นบาท ‘เหยื่อโควิด’ ทุกศพ
