สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ชี้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือมากกว่านี้ เพื่อให้เข้าถึง วัคซีนโควิดมากขึ้น ในช่วงเวลาที่ภูมิภาคนี้ กำลังรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา ที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง
สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (ไอเอฟอาร์ซี) ระบุว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังรับมือกับยอดผู้เสียชีวิต เพราะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากสุดในโลก เนื่องจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตา และความไม่เท่าเทียมกันในเรื่องการจัดจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิด
ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไล่ตั้งแต่เวียดนาม ไปจนถึงมาเลเซีย และเมียนมา กำลังตกอยู่ท่ามกลางความหวาดผวา ถึงจำนวนผู้เสียชีวิต จากโควิด ที่กำลังระบาดไปทั่ว
ในช่วง 2 สัปดาห์ล่าสุดมานี้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 38,522 ราย หรือมากกว่าในภูมิภาคอเมริกาเหนือเกือบ 2 เท่า
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล้าหลังฉีดวัคซีนโควิด
นายอเล็กซานเดอร์ มาเธอู ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ของไอเอฟอาร์ซี ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อ และยอดผู้เสียชีวิต พุ่งสูงขึ้นในเอเชียแปซิฟิก มีปัจจัยสำคัญมาจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ที่ติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดลง
ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียแปซิฟิก รวมถึงเวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย มียอดผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตสูงเป็นประวัติการณ์ เป็นสถิติใหม่บ่อยครั้ง ในขณะเดียวกัน ประเทศอย่างแคนาดา สเปน และอังกฤษ ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสให้กับพลเมืองมากกว่า 60% และสหรัฐมากกว่า 50% แต่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังตามหลังประเทศเหล่านี้อยู่อีกไกล
อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาค ฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปได้เพียง 10-11% เท่านั้น ในขณะที่เวียดนาม ฉีดไปได้ไม่ถึง 2%
นายมาเธอู กล่าวว่า ในระยะสั้นนั้น มีความจำเป็นต้องใช้ความพยายามมากขึ้นกว่าเดิม ของบรรดาประเทศร่ำรวย ในการช่วยแบ่งปันวัคซีนที่มีเกินกว่าความต้องการหลายล้านโดส ให้กับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่บริษัทวัคซีน และรัฐบาลต่าง ๆ จำเป็นต้องแบ่งปันเทคโนโลยี และเพิ่มกำลังการผลิต
เขาระบุด้วยว่า ในช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เป็นช่วงเวลาสำคัญในการเพิ่มการรักษา การตรวจหาผู้ติดเชื้อ และการฉีดวัคซีนในทุกประเทศในภูมิภาคนี้ และจะต้องตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ได้ 70-80% ของประชากร
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ฮ่องกง’ ขึ้นบัญชี ‘สหรัฐ-ไทย’ ประเทศเสี่ยงโควิดสูง ต้องกักตัว 21 วัน
- ‘นิวซีแลนด์’ สั่งล็อกดาวน์ขั้นสุดทั่วประเทศ หลังพบติดโควิด 1 ราย คาดเป็นสายพันธุ์เดลตา
- ฟิลิปปินส์ ผวา! เจอคนติด ‘โควิดสายพันธุ์แลมบ์ดา’ รายแรกของประเทศ