โควิดวันนี้ 7 ก.ค. นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 185,378,718 คน รักษาตัวหายแล้ว 169,718,334 คน และมียอดสะสม ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,008,951 ราย ทำให้วันนี้ ทั่วโลกมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นมา 428,467 ราย และมีผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 7,997 ราย
Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลโควิด-19 ล่าสุด ที่รวบรวมมาจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมจำนวน 34,622,690 ราย โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 11,612 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 621,561 ราย เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 202 ราย ยังคงเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต
ทางด้าน อินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก มีตัวเลขผู้ติดเชื้อช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาที่ 30,662,896 ตามด้วย บราซิล (18,855,015), ฝรั่งเศส (5,790,584), รัสเซีย (5,658,672), ตุรกี (5,454,763)
สหราชอาณาจักร (4,958,868), อาร์เจนตินา (4,574,340), โคลอมเบีย (4,402,582) และอิตาลี (4,264,704)
ประเทศที่มียอดสะสมผู้ติดเชื้อมากกว่า 3 ล้านคน รวมถึง สเปน เยอรมนี และอิหร่าน ส่วนประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านราย ได้แก่ โปแลนด์ เม็กซิโก อินโดนีเซีย ยูเครน แอฟริกาใต้ และ เปรู โดยประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 ล้านราย ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ชิลี ฟิลิปปินส์ แคนาดา อิรัก สวีเดน เบลเยียม และโรมาเนีย
สำหรับสถานการณ์ในอาเซียนนั้น กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 31,189 ราย ส่งผลให้ จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 2,345,018 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุด ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
ส่วนผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 728 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 61,868 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข ฟิลิปปินส์ รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อ โควิดวันนี้ 7 ก.ค. ที่ 1,445,832 ราย เพิ่มขึ้น 4,114 คน ส่วนผู้เสียชีวิต จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 104 ราย ทำให้มียอดสะสมผู้เสียชีวิตล่าสุด อยู่ที่ 25,296 ราย
ทางด้าน สมาคมการแพทย์แห่งออสเตรเลีย (AMA) เรียกร้องให้มีการบังคับใช้คำสั่งสวมหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ หลังประชาชนเกิดความชะล่าใจกันมากขึ้น
ในผลสำรวจทั่วประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ของ “แคนสตาร์” (Canstar) หน่วยงานวิจัยชั้นนำของออสเตรเลีย ระบุว่าผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 55 บอกว่าพวกเขาจะสวมหน้ากากอนามัย ก็ต่อเมื่อรัฐบาลของรัฐ หรือเขตปกครองของพวกเขา บังคับใช้คำสั่งดังกล่าวเท่านั้น
ทั้งนี้ มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 7 เท่านั้นที่บอกว่า พวกเขาสวมหน้ากากอนามัยเมื่อป่วย และร้อยละ 8 บอกว่าพวกเขาเต็มใจสวมหน้ากากอนามัยเอง เมื่อใช้บริการขนส่งสาธารณะ
นายคริส มอย รองประธานสมาคมการแพทย์แห่งออสเตรเลีย เรียกร้องให้รัฐบาลกลาง บังคับใช้คำสั่งสวมหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ แม้ว่าคำสั่งบังคับใส่หน้ากากอนามัยจะเป็นไปตามดุลยพินิจของรัฐบาลระดับรัฐ และเขตปกครองแต่ละแห่งตั้งแต่ช่วงแรกของการระบาดใหญ่ โดยเขาเห็นว่า จำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎดังกล่าวในทั่วประเทศ
“การออกข้อบังคับโดยรัฐบาลกลางเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ พวกเขาจำเป็นต้องช่วยให้ผู้คนเข้าใจว่า การใช้ชีวิตโดยสวมใส่หน้ากากอนามัย เป็นเรื่องพื้นฐานที่จำเป็นอีกประการหนึ่งในการใช้ชีวิตอยู่กับเชื้อไวรัส และเชื้อไวรัส ชนิดกลายพันธุ์ทั้งหมด”
ร้อยละ 46 ของผู้ตอบแบบสอบถามในรัฐวิกตอเรีย ซึ่งบังคับใช้กฎที่เข้มงวดที่สุดในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) กล่าวว่าพวกเขาจะสวมหน้ากากต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้น ขณะที่ยอดเดียวกันนี้ในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ซึ่งกำลังเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ที่ร้อยละ 48
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ต้องไม่ใช่ ซิโนแวค ‘หมอธีระวัฒน์’ ย้ำคัดกรอง-มีวินัย สู้โควิดได้
- ด้วยความเคารพ!! ‘หมอนิธิ’ ค้านฉีด ‘ไฟเซอร์’ เข็ม 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์
- ยื้อถึงจุดโทษ! ‘อิตาลี’ ดับ ‘สเปน’ เข้าชิง ยูโร 2020
