“อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยติดอันดับโลก ประกาศแผนลดจำนวนพนักงานทวิตเตอร์เกือบ 75% จากทั้งหมดที่มีอยู่ประมาณ 7,500 คน ทันทีที่ปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ได้สำเร็จ
หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ และเอกสารที่หลุดออกมาว่า มัสก์มีความตั้งใจที่จะลดจำนวนพลังงานของบริษัทลงประมาณ 7,500 คนให้เหลือเพียง 2,000 คน ซึ่งคาดว่าการปรับลดพนักงานครั้งนี้ จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ ศาลเดวาแวร์ สหรัฐ มีคำสั่งให้เวลามัสก์จนถึงวันที่ 28 ตุลาคมนี้ เพื่อปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์ ตามคำร้องขอของทวิตเตอร์ ที่ขอให้ศาลบังคับให้มัสก์เข้าซื้อกิจการตามข้อตกลงเดิม
วอชิงตันโพสต์ รายงานว่าบอร์ดบริหารปัจจุบันของทวิตเตอร์ มีแผนลดค่าจ้างของบริษัทลงประมาณ 800 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2566 ซึ่งหมายความว่าจะต้องปรับลดจำนวนพนักงานลงประมาณ 25%
วอชิงตันโพสต์รายงานด้วยว่า ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทแจ้งกับพนักงานว่า ไม่มีแผนเลิกจ้างครั้งใหญ่ แต่จากเอกสารที่รั่วออกมาเผยให้เห็นว่าทวิตเตอร์มีแผนเลิกจ้างพนักงานและปรับลดต้นทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ตั้งแต่ก่อนมัสก์เสนอซื้อกิจการ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สำเร็จ! ‘อีลอน มัสก์’ ทุ่ม 4.4 หมื่นล้านดอลล์ ซื้อกิจการ ‘ทวิตเตอร์’ ลั่น ‘กำจัดสแปม-หนุนเสรีภาพการพูด’
- เรื่องถึงศาล! ‘ทวิตเตอร์’ ยื่นฟ้อง ‘อีลอน มัสก์’ บังคับทำตามข้อตกลงซื้อกิจการ 4.4 หมื่นล้านดอลล์
- ‘อีลอน มัสก์’ ฟ้องกลับ ‘ทวิตเตอร์’ คดียกเลิก ‘ข้อตกลงซื้อกิจการ’