เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.75% หรืออาจมากถึง 1% ในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้ หลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดรอบ 40 ปีครั้งใหม่
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธาน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ แสดงความเห็น หลังมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ประจำเดือนมิถุนายน เมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ถึงความเป็นได้ที่เฟด จะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นถึง 1% ว่า “ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น”
ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย
ขณะที่นางลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ ให้สัมภาษณ์ในวันเดียวกันว่า เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเงินเฟ้อ ที่เปิดเผยออกมาในขณะนี้ ก็ไม่มีเหตุผล ที่จะทำให้เฟดต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยกว่าระดับ 0.75% เหมือนอย่างที่เคยขึ้นไปแล้วในการประชุมเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ส่วน นางแมรี ดาลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ระบุว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.75% หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าคาด โดยก่อนหน้านี้ เธอคาดว่า ดัชนี CPI จะออกมาค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่คิดว่าจะสูงมากถึงขนาดนี้ ซึ่งถือเป็นข่าวร้ายมาก
ทางด้านนักลงทุน และนักวิเคราะห์ พากันคาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 1% ในการประชุมวันที่ 26-27 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 90
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในเดือนมิถุนายน พุ่งขึ้น 9.1% เมื่อเทียบรายปี ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปีครั้งใหม่ ทั้งตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าระดับ 8.6% ในเดือนพฤษภาคม และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 8.8%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนมิถุนายน เมื่อเทียบรายปี แม้ว่าจะชะลอตัวลงจากเดือนพฤษภาคม ที่พุ่งขึ้น 6.0% แต่ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.8%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เกาหลีใต้’ แนวโน้มสูง ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ หลัง ‘เงินเฟ้อ’ เดือนมิ.ย. พุ่งสุดรอบ 24 ปี
- ‘แบงก์ชาติแคนาดา’ ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สกัดเงินเฟ้อพุ่ง กระทบเศรษฐกิจโต
- ยังไม่จบ! ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง’ หลังปรับ 0.75% ครั้งใหญ่สุดรอบ 28 ปี