ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า การที่ “อีลอน มัสก์” ต้องการยกเลิกข้อตกลงเข้าซื้อกิจการ “ทวิตเตอร์” ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะแค่เดินจากไป แต่มีแนวโน้มที่จะต้องต่อสู้กันในศาลเป็นเวลานาน เพื่อจัดการกับเรื่องนี้
อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจหลายอย่าง ประกาศยกเลิกข้อตกลงที่จะเข้าซื้อกิจการ “ทวิตเตอร์ อิงค์” มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ เพราะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายนี้ “ละเมิดเงื่อนไขของข้อตกลงอย่างร้ายแรงหลายข้อ”
มัสก์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ เทสลา บรรลุข้อตกลงเมื่อเดือนเมษายนเพื่อซื้อทวิตเตอร์ในมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์
แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ก.ค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ เผยแพร่จดหมายที่ทนายความของมัสก์ ที่ยื่นต่อทวิตเตอร์ในวันเดียวกันนั้น เพื่อแจ้งต่อทวิตเตอร์ว่าเขาจะยกเลิกข้อตกลง
ผู้แทนของมัสก์ ระบุว่า ทวิตเตอร์ไม่มอบข้อมูลจำนวนบัญชีปลอม หรือบัญชีสแปมที่มีในแพลตฟอร์มของทวิตเตอร์ตามที่ตกลงกันไว้
ที่ผ่านมา มัสก์ต้องการข้อมูลส่วนนี้ เพื่อตัดสินความซื่อตรงของคำกล่าวอ้างของทวิตเตอร์ที่ว่า มีบัญชีในลักษณะนั้นน้อยกว่า 5% ของบัญชีทั้งหมด นายมัสก์ระบุว่าข้อมูลส่วนนี้จำเป็นต่อการประเมินมูลค่าองค์กรของทวิตเตอร์
ทางด้าน ทวิตเตอร์ตอบโต้อย่างทันควัน โดย เบร็ต เทย์เลอร์ ประธานบริษัทระบุผ่านข้อความในทวิตเตอร์ว่าคณะกรรมการบริหารของบริษัทจะต้องทำให้การซื้อขายลุล่วงให้ได้
นายเทย์เลอร์กล่าวว่า ทางคณะกรรมการ วางแผนจะดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อบังคับใช้ข้อตกลงการควบกิจการตามที่ได้ตกลงไว้ และเขามั่นใจว่าจะ “ชนะอย่างแน่นอน”
อีลอน มัสก์ ต้องพิสูจน์ข้อกล่าวหาให้ได้
แอน ลิปตัน ศาสตราจารย์ด้านบรรษัทภิบาล จากวิทยาลัยกฎหมายทูเลน กล่าวว่า บอร์ดทวิตเตอร์ อยู่ในสถานะที่ยากลำบาก พวกเขาไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะปล่อยให้มัสก์ยกเลิกข้อตกลง หรือลดมูลค่าการซื้อขายกิจการลงมา เพราะถ้าทำอย่างนั้น ก็เป็นการเสี่ยงที่จะโดนฟ้องร้องจากผู้ถือหุ้นบริษัท
ลิปตัน บอกด้วยว่า ข้อตกลงในการควบรวมกิจการนั้น เป็นสิ่งที่ “ยากมาก” ที่จะก้าวออกมา และจนถึงขณะนี้ ก็ดูเหมือนว่า มัสก์ ยังไม่มีพยานหลักฐานที่มีประสิทธิภาพมากพอ ที่จะมาสนับสนุนคำกล่าวอ้างของเขา
“การที่จะทำให้เกิดการทำผิดสัญญาอย่างเป็นรูปธรรม ของข้อตกลงนั้น มัสก์จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า ทวิตเตอร์ สร้างข้อความเท็จที่ร้ายแรงมาก จนส่งผลกระทบระยะยาวต่อศักยภาพในการสร้างรายได้ของบริษัท”
ขณะที่ ไบรอัน ควินน์ ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยกฎหมายบอสตัน ชี้ว่า ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทวิตเตอร์น่าจะยื่นฟ้องเรื่องนี้ และขอให้ศาลตัดสินว่า บริษัททำผิดข้อตกลงหรือไม่ จากนั้นก็ขอคำสั่งศาล ให้มัสก์ ปฏิบัติตามข้อเงื่อนไขในข้อตกลง และดำเนินการซื้อกิจการจนเสร็จสมบูรณ์
ควินน์ คาดการณ์ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องดำเนินการยื่นคัดค้านกันและกันในศาล ส่วนหนึ่งของกระบวนการทางกฎหมาย ที่อาจจะต้องใช้เวลาเป็นปี กว่าที่จะได้ผลตัดสินออกมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อีลอนมัสก์’ อยากให้ ‘คนอเมริกัน’ ใช้ ‘ทวิตเตอร์’ มากขึ้น
- ‘อีลอนมัสก์’ เทขายหุ้นเทสลา 4.8 พันล้านดอลล์ คาดระดมทุนซื้อ ‘ทวิตเตอร์’
- สำเร็จ! ‘อีลอนมัสก์’ ทุ่ม 4.4 หมื่นล้านดอลล์ ซื้อกิจการ ‘ทวิตเตอร์’ ลั่น ‘กำจัดสแปม-หนุนเสรีภาพการพูด’