World News

‘ราคาน้ำมัน WTI’ ทะยานรอบใหม่ ทะลุ 117 ดอลลาร์ รับข่าวสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่าน-อุปทานตึงตัว

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ปิดบวกในวันพฤหัสบดี (16 มิ.ย.) แรงหนุนจากข่าวสหรัฐคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกยังคงเผชิญภาวะตึงตัว

ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 117.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 119.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

น้ำมันดิบมีราคาพุ่งขึ้น หลังมีรายงานข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทอิหร่าน จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ที่ช่วยเหลืออิหร่านในการส่งออกปิโตรเคมี โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกดดันอิหร่าน ให้กลับเข้าสู่การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์

ราคาน้ำมัน

นอกจากนี้ ขาขึ้นของราคาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันในลิเบียลดฮวบสู่ระดับ 100,000-150,000 บาร์เรล/วัน จากระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วันในปีที่แล้ว โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า ลิเบียกำลังเผชิญปัญหาด้านการส่งมอบน้ำมัน อันเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ

ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนให้การซื้อขายน้ำมันดิบปิดตลาดในแดนบวก หลังจากร่วงลงในช่วงแรก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยหลังจากธนาคารกลางทั่วโลกพากันประกาศขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี

ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี ขณะที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ฮังการี บราซิล บราซิล ไต้หวัน ฮ่องกง และอาร์เจนตินา ต่างก็ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo