World News

เปิดเหตุผล ‘ราคาน้ำมัน’ ยังแพงอีกนาน

ราคาน้ำมันในตลาดโลก ทะยานกลับขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับช่วงแรกๆ ที่เกิดสงครามยูเครน และยังไม่มีแนวโน้ม ที่ราคาจะปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่ทำให้บรรดานักขับขี่ และภาคธุรกิจ หายใจคล่องขึ้นมาในเร็ววันนี้13

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งทะลุ 124 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศลดปริมาณนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมากถึง 90% ภายในสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันค่อย ๆ ปรับตัวลงมาทีละน้อย จนมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับประมาณ 117 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนใหญ่เป็นเพราะกระแสคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะผลิตน้ำมันเพิ่ม แม้จะไม่มากพอที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภค หรือช่วยสกัดขาขึ้นของอัตราเงินเฟ้อโลกก็ตาม เพราะการตัดสินใจดังกล่าวของอียู และความต้องการน้ำมันในจีน ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว

แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาดีดตัวขึ้นมายืนอยู่เหนือระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง ซึ่ง แมตต์ สมิธ นักวิเคราะห์น้ำมันจากเคปเลอร์ บริษัทด้านการวิเคราะห์ แสดงความเห็นว่า มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันดิบ จะอยู่ในตัวเลข 3 หลักต่อไปอีกระยะหนึ่ง

“หากความต้องการจากจีนกลับคืนมา หลังสิ้นสุดล็อกดาวน์ และรัสเซียยังมีปริมาณการผลิตลดลง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาน้ำมันที่ระดับ 139 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ที่เคยเห็นกันมาแล้วในช่วงต้นปีนี้ อีกครั้งหนึ่ง”

ราคาน้ำมัน

ยุโรปตัดขาดรัสเซีย ทำราคาน้ำมันพุ่ง 

แม้อัตราเงินเฟ้อจะทะยานขึ้น และการขยายตัวของเศรษฐกิจ ที่เป็นไปอย่างยากลำบาก จะทำให้เกิดความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็ไม่มีแนวโน้มว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลก จะลดลงมากพอที่จะกดราคาให้ร่วงลงมา เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2561

สมิธ บอกว่า เรื่องที่น่ากังวลในขณะนี้ ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น เป็นปัญหามาจากด้านการจัดหา ทำให้แม้เศรษฐกิจโลกจะมุ่งหน้าสู่ภาวะถดถอย แต่ราคาน้ำมันก็อาจจะไม่ปรับลงมาอย่างหนัก

เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว อียู ประกาศอย่างเป็นทางการ ที่จะห้ามนำเข้าน้ำมันบางส่วนจากรัสเซีย ซึ่งถือเป็นมาตรการชุดที่ 6 ในการคว่ำบาตรรัสเซีย เพื่อลงโทษที่บุกโจมตียูเครน โดยในขณะนี้ ชาติสมาชิกอียู มีเวลา 6 เดือน ที่จะลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย และ 8 เดือน สำหรับการยกเลิกนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันทั้งหมด

สมิธ บอกว่า สำหรับตอนนี้ อียูมีแนวโน้มที่จะซื้อน้ำมันบางส่วนจากรัสเซียต่อไป แต่ขณะเดียวกัน ก็มองหาทางเลือกอื่น ๆ ไปด้วย

ข้อมูลจากเคปเลอร์ แสดงให้เห็นว่า นับแต่ที่เริ่มเกิดสงครามยูเครน อียูนำเข้าน้ำมันดิบจากแองโกลา เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า ขณะที่ปริมาณการนำเข้าน้ำมัน จากบราซิล และอิรัก ก็เพิ่มขึ้นมากถึง 50% และ 40% ตามลำดับ

ทางด้าน รอสแลน คาซอว์เนห์ นักวิเคราะห์น้ำมันเชื้อเพลิงอาวุโส จากวอร์เท็กซา บริษัทด้านข้อมูลพลังงาน ชี้ว่า การจัดหาน้ำมันจากแหล่งที่อยู่ไกลออกไปนั้น จะทำให้ราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป

“ผลกระทบโดยตรง จากเรื่องนี้คือ ค่าระวางขนส่งที่สูงขึ้น เพราะระยะทางที่ไกลกว่าเดิม ซึ่งในทางกลับกัน ก็จะดันให้ต้นทุนการนำเข้าน้ำมันพุ่งสูงขึ้นด้วย”

ราคาน้ำมัน

ทางเลือกที่ไร้ประสิทธิภาพ

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว รัสเซียมีสัดส่วนการจัดหาน้ำมันป้อนตลาดโลกราว 14% ของยอดการจัดหาทั้งหมด ซึ่งการคว่ำบาตรรัสเซีย ของชาติตะวันตก ทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ในตลาดขึ้นมาแล้ว

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัสเซียลดปริมาณการผลิตน้ำมันลงมาวันละเกือบ 1 ล้านบาร์เรล และอาจลดลงไปมากถึง 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

หลังจากที่กลุ่มโอเปค และชาติพันธมิตร หรือที่รู้จักกันในชื่อโอเปคพลัส เห็นพ้องที่จะจัดหาน้ำมันให้ตลาดโลก เพิ่มอีกวันละ 648,000 บาร์เรล ในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคมแล้ว ไออีเอ คาดว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันโลก ไม่รวมรัสเซีย น่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตลอดระยะเวลาที่เหลืออยู่ในปีนี้ ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุล จากการคว่ำบาตรไว้ได้

กระนั้นก็ตาม สมิธ จากเคปเลอร์ มองว่า เป็นเรื่องยากที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมา เพราะแม้กระทั่งก่อนหน้าที่จะเกิดสงครามในยูเครน บรรดาผู้ผลิตน้ำมัน ก็พากันปรับลดการลงทุนในด้านการผลิต เนื่องจากกำลังมุ่งหน้าไปสู่พลังงานหมุนเวียน และโอเปคเอง ก็มีเพดานผลิตที่จำกัด

“โอเปคพลัส ภาระเต็มมืออยู่แล้ว สำหรับการที่จะผลิตให้ได้ตามข้อตกลงปัจจุบัน แม้กระทั่งชาติสมาชิกหลัก ๆ ของกลุ่มโอเปค อย่าง ซาอุดีอาระเบีย ยูเออี และคูเวต ก็ยังส่งออกน้ำมันเมื่อเดือนที่แล้ว ลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน”

ขณะที่ จิโอวานนิ สโตโนโว นักกลยุทธ์ จากยูบีเอส วาณิชธนกิจชั้นนำ ชี้ว่า สมาชิกโอเปคพลัสหลายราย มีกำลังผลิตที่ถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้ว ซึ่งหมายความว่า อาจจะเพิ่มปริมาณการผลิต ได้เพียงครึ่งเดียวของเป้าหมายที่ตั้งไว้

ราคาน้ำมัน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo