ในช่วงแรกของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้น ทั่วโลกต่างมุ่งเน้นไปยังกลุ่มเสี่ยงสูง ทั้งกลุ่มผู้สูงวัย และผู้มีโรคประจำตัว ที่เมื่อติดเชื้อแล้ว มีความเป็นไปได้ที่จะเสียชีวิตสูง หรือมีอาการป่วยอย่างรุนแรง รวมถึง บรรดาบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็นด่านหน้า ที่ต้องเผชิญกับเชื้อโรคร้ายนี้โดยตรง
ปัจจุบัน สถานการณ์ระบาดที่ยืดเยื้อ และอัตราการติดเชื้อในกลุ่มเด็ก ที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้ความสนใจเริ่มหันมาถึงเรื่อง การฉีดวัคซีนเด็ก แม้จะเป็นกลุ่มเสี่ยงน้อยก็ตาม ซึ่ง บีบีซี รายงานว่า หลายประเทศทั่วโลก รวมถึง ยุโรป อังกฤษ และ สหรัฐ เริ่มฉีดวัคซีนเด็ก เพื่อป้องกันโควิดแล้ว
สหราชอาณาจักร
เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของสหราชอาณาจักรแนะนำให้เด็ก ๆ อายุระหว่าง 12-15 ปี สามารถรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ โดยเป็นวัคซีนไฟเซอร์ 1 โดส และจะเริ่มโครงการเชิญชวนเข้ารับการฉีดวัคซีนในสัปดาห์หน้า แต่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง
แผนการนี้เกิดขึ้นตามคำแนะนำของหัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของสหราชอาณาจักร ซึ่งระบุว่า การให้วัคซีนแก่เด็ก จะช่วยลดผลกระทบทางการศึกษาลง แต่ยังไม่มีการยืนยันว่า จะมีการให้วัคซีนแก่เด็กในสกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือหรือไม่
หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ 4 คน ของสหราชอาณาจักร แนะนำว่า แม้เด็กอายุ 12-15 ปี จะมีความเสี่ยงต่ำในการติดเชื้อ แต่เมื่อพิจารณาหลายปัจจัยร่วมด้วย เช่น ผลกระทบทางการศึกษา ก็เห็นสมควรที่จะให้ได้รับวัคซีน 1 โดส
ยุโรป
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สำนักงานการแพทย์ยุโรป (European Medicines Agency–EMA) ได้อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 12-15 ปี และประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป (อียู) ก็ได้เริ่มให้วัคซีนแก่เด็กนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
- เดนมาร์ก
ให้วัคซีนแก่ประชากรเด็ก อายุ 12-15 ปี ส่วนใหญ่แล้วอย่างน้อย 1 โดส
- สเปน
ให้วัคซีนแก่ประชากรเด็ก อายุ 12-19 ปี ส่วนใหญ่แล้วอย่างน้อย 1 โดส
- ฝรั่งเศส
ให้วัคซีนแก่เด็ก 12-17 ปี จำนวน 1 โดสแล้วคิดเป็นสัดส่วน 66% และให้วัคซีนครบโดสแล้ว 52%
ในเดือนตุลาคมนี้ ต.ค. นี้ หนังสือรับรองสุขภาพ หรือ Health Pass ของฝรั่งเศส จะขยายครอบคลุมถึงคนอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำให้วัยรุ่นทุกคนจำเป็นต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีน หรือผลการตรวจหาเชื้อโรคโควิดที่เป็นลบ เพื่อเข้าไปในสถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ ภัตตาคาร และศูนย์การค้า
- เยอรมนี
เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของเยอรมนี แนะนำว่าควรจะให้วัคซีนแก่เด็กอายุ 12-15 ปี ที่มีปัญหาสุขภาพ แต่ในเดือน สิงหาคม หลังจากที่เชื้อกลายพันธุ์เดลตา เริ่มแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น ก็ได้ขยายการให้วัคซีนแก่ทุกคนที่อายุมากกว่า 12 ปี
- สวีเดน
เด็กอายุ 12-15 ปี มีสิทธิ์ได้รับวัคซีน หากเป็นโรคปอด โรคหอบหืดรุนแรง หรือมีปัญหาด้านสุขภาพที่มีความเสี่ยงสูง
- นอร์เวย์
ประเทศที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปรายนี้ เพิ่งขยายการให้วัคซีนครอบคลุมเด็กอายุ 12-15 ปี แต่จะให้เพียงโดสแรกเท่านั้น และจะมีการตัดสินใจต่อไปว่า จะให้โดสที่ 2 หรือไม่
สหรัฐ
ในเดือนพฤษภาคม หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ อนุมัติให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้แก่เด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปได้ จากนั้นก็เริ่มมีการให้วัคซีนแก่เด็ก ตามจุดต่าง ๆ ทั่วสหรัฐ ทันที โดยจะให้ 2 โดส ทิ้งช่วงห่างกัน 3 สัปดาห์
ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เด็กอเมริกัน อายุ 12-17 ปี ราว 42% ได้รับวัคซีนไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นาโดสแรกแล้ว และ 32% ได้รับวัคซีนโดสที่ 2 แล้ว ซึ่งการผลักดันให้ฉีดวัคซีนให้แก่เด็ก เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐ ต้องเผชิญกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น จากเชื้อกลายพันธุ์เดลตา
นอกจากนี้ คณะกรรมการโรงเรียนในสหรัฐ บางแห่ง ลงมติบังคับให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ต้องได้รับการฉีดวัคซีน จึงจะอนุญาตให้เข้าชั้นเรียน แม้ว่ามีพ่อแม่เด็กบางส่วนคัดค้าน
ในนครลอสแอนเจลิส เพิ่งออกคำสั่งฉีดวัคซีน ซึ่งครอบคลุมนักเรียน 600,000 คน ส่วนในนครนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่ในโรงเรียนต้องรับวัคซีน แต่ไม่บังคับนักเรียน
จีน
เมื่อเดือนมิถุนายน จีนเริ่มเสนอให้วัคซีนที่ผลิตโดยซิโนแวค แก่เด็กอายุ 3-17 ปีบางส่วน ทำให้จีนกลายเป็นประเทศแรกที่อนุมัติการให้วัคซีนในเด็กกลุ่มอายุดังกล่าว โดยจีนได้กำหนดเป้าหมายคร่าว ๆ ว่า ต้องการให้วัคซีนครอบคลุม 80% ของประชากร 1,400 ล้านคนให้ได้ ภายในสิ้นปี 2564 ซึ่งตัวเลขนี้จะเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีการให้วัคซีนแก่เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
ตามหลักการแล้ว จีนไม่ได้บังคับให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด แต่ส่วนบริหารท้องถิ่นบางแห่งบอกกับนักเรียนว่า จะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับไปโรงเรียนในภาคการศึกษานี้ ถ้าคนในครอบครัวทุกคนยังได้รับวัคซีนไม่ครบ 2 โดส
ชิลี
อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโควิด ของซิโนแวค ในเด็กอายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป ขณะที่ทางบริษัทเพิ่งเริ่มการทดลองทางการแพทย์ เพื่อทดสอบการให้วัคซีนในเด็กในแอฟริกาใต้อายุตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 17 ปี
อินเดีย
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หน่วยงานกำกับดูแลยาของอินเดียได้อนุมัติการใช้งานฉุกเฉินวัคซีนตัวใหม่ ที่พัฒนาขึ้นโดยไซดุส คาลิลา (Zydus Cadila) บริษัทยาท้องถิ่น แก่เด็ก ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นครั้งแรก ที่มีการให้วัคซีนครอบคลุมประชากรวัยเด็ก โดยเด็กต้องได้รับวัคซีนนี้ ซึ่งเป็นชนิดฉีดแบบไร้เข็ม แยกกัน 3 โดส และบริษัทหวังว่า จะเริ่มการทดลองในเด็กที่อายุ 2 ขวบขึ้นไปในเร็ว ๆ นี้
ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอินเดียระบุว่า การให้วัคซีนแก่เด็กอายุ 12-17 ปี ที่มีปัญหาทางสุขภาพร้ายแรง อาจเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ แต่การให้วัคซีนที่ครอบคลุมมากกว่านั้น จะเกิดขึ้นหลังจากดำเนินโครงการให้วัคซีนผู้ใหญ่ในประเทศแล้วเสร็จ ซึ่งทางการตั้งเป้าว่าจะเสร็จสิ้นในปลายปี 2564
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สหรัฐ ผงะ! เด็กอเมริกันติดโควิด พุ่ง 240% ยอดล่าสุดทะลุ 2 แสนราย
- ครั้งแรกของโลก! ‘ซิโนแวค’ ทดลอง ‘วัคซีนโควิด’ ในทารก 6 เดือน
- ‘ไบโอเอนเทค’ เล็งขออนุมัติ ‘วัคซีนโควิด’ ฉีดเด็กอายุ 5-11 ปี ทั่วโลก
