“อียู” ลงนามใบรับรองโควิดแบบดิจิทัล เตรียมพร้อมใช้งานช่วงกลางปีนี้ เปิดทางเดินทางท่องเที่ยวอย่างเสรี ในช่วงฤดูร้อน
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า สหภาพยุโรป (EU) ได้ลงนามใบรับรองโรคโควิด-19 แบบดิจิทัล (EUDCC) อย่างเป็นทางการ ณ กรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียมแล้ว ภายใต้ความร่วมมือจาก 3 สถาบันของภูมิภาค ที่เตรียมใช้งานใบรับรองดังกล่าวในฤดูร้อนนี้ หลังจากที่ คณะกรรมาธิการยุโรป เสนอแนวคิดใบรับรองโรคโควิด-19 แบบดิจิทัลของยุโรป เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
นายเดวิด ซัสโซลี ประธานรัฐสภายุโรป นางเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) และนายอันโตนิโอ คอสตา นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส ในฐานะตัวแทนคณะมนตรีแห่งอียู ได้ร่วมลงนามเอกสารใบรับรองโรคโควิด-19 ดังกล่าว
“ตอนนี้เราสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย ซึ่งปลอดภัยสำหรับตัวเราเอง เจ้าบ้าน ครอบครัว เพื่อนบ้าน และเพื่อนร่วมงานของเรา เมื่อเราเดินทางกลับมา” นายคอสตากล่าว
“ด้วยความสำเร็จของใบรับรองและโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในยุโรป เราทุกคนจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อนนี้ได้อย่างปลอดภัย และยุโรปกำลังจะกลับมาเปิดประตูต้อนรับผู้คนอีกครั้ง” นางฟอน แดร์ ไลเอิน กล่าว
ใบรับรองโรคโควิด-19 แบบดิจิทัลจะช่วยให้ ผู้อาศัยในอียูสามารถเดินทางท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน ภายในกลุ่มประเทศสมาชิกได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีข้อจำกัดเพิ่มเติม แต่ข้อจำกัดการเดินทางอาจถูกปรับใช้ตามกรณีที่จำเป็น อาทิ กรณีเผชิญโรคโควิด-19 สายพันธุ์ที่น่ากังวล
อย่างไรก็ดี ใบรับรองดังกล่าว จะไม่ใช่ข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการเดินทางภายในพื้นที่เชงเก้น และไม่ถือเป็นเอกสารการเดินทาง แต่จะเป็นหลักฐานว่า ผู้ถือใบรับรองได้ผ่านการฉีดวัคซีน มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นลบ หรือหายดีจากโรคแล้ว ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบดิจิทัล หรือกระดาษ
ทั้งนี้ ใบรับรองโรคโควิด-19 แบบดิจิทัล จะพร้อมให้บริการแก่ผู้อาศัยในอียูภายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แม้บางประเทศเริ่มนำร่องการใช้งานแล้ว โดยมีการจัดเตรียมทีมเจ้าหน้าที่บริเวณทางเข้าออกของประเทศต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบใบรับรอง
ส่วน 4 ประเทศนอกอียู ได้แก่ ลิกเตนสไตน์ สวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ และนอร์เวย์ ร่วมใช้ใบรับรองนี้ด้วยเช่นกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนามัยโลก’ ชี้ ‘ไวรัสกลายพันธุ์’ ทำ ‘โควิด’ ระบาดเร็วกว่า การกระจายวัคซีน
- ‘จีน’ ทดลองขั้นคลินิค ‘วัคซีนโควิด’ แบบ ‘พ่นจมูก’ ตัวที่ 2
- ‘ยุโรป’ ย้ำ วัคซีนโควิด ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ มีทั้ง ‘ประโยชน์-ความเสี่ยง’ ต่อทุกวัย