ช่วงเวลานี้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มทยอยประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2565 กันบ้างแล้ว เพราะว่างบการเงินรายไตรมาสจะต้องส่ง ก.ล.ต. ภายใน 45 วันหลังจากวันปิดงบ เพราะฉะนั้น งบไตรมาส 3 จึงมักจะเริ่มรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งช่วงกลางเดือนตุลาคมไปจนกลางเดือนพฤศจิกายน
ปกติแล้วไตรมาส 3 ของทุกปี มักจะเป็นช่วงที่กำไรจะชะลอตัวลง เนื่องจากปัจจัยด้านฤดูกาล ซึ่งเป็นช่วง Low Season ของหลายธุรกิจ เช่น ค้าปลีก เกษตร ขนส่ง ท่องเที่ยว และภาคการผลิตของบางอุตสาหกรรมที่ถูกผลกระทบจากฤดูฝน และปีนี้ที่ฝนตกมากกว่าปกติ ก็คาดว่าจะเป็นปัจจัยกดดันต่อกำไรสุทธิของหลายบริษัทเช่นกัน
ทั้งนี้ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ Theme Strategy Earning Season ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/2565 ของ SET Index ที่ 2.9 แสนล้านบาท ลดลง 15% จากไตรมาสที่ผ่านมา ตามปัจจัยฤดูกาลของหลายธุรกิจ ทว่าเมื่อเทียบกำไรสุทธิกับไตรมาส 3/2564 คาดว่าจะเติบโตถึง 25% เนื่องจากการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจบริการ มาจากฐานที่ต่ำมากในปีก่อน เพราะเศรษฐกิจไทยถูก Full Lockdown จาก COVID-19 สายพันธุ์เดลต้าที่ระบาดอย่างหนัก
โดยกำไรของกลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น คาดว่าจะอ่อนตัวลงตามราคาน้ำมันดิบและค่าการกลั่น รวมถึงอาจมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนตามค่าเงินบาทเฉลี่ยที่อ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มค้าปลีกอ่อนตัวลงตามปัจจัยฤดูกาลที่เป็น Low Season อยู่แล้ว และจะยังถูกกดดันเพิ่มเติมด้วยภาวะน้ำท่วมหนักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ส่วนกลุ่มปิโตรเคมีและสื่อสารถูกกดดันจากต้นทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงแรงกดดันด้านต้นทุนค่าไฟที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่า Ft
นอกเหนือจากกลุ่มดังกล่าว แนวโน้มกำไรสุทธิของกลุ่มอื่น โดยเฉพาะภาคบริการที่เป็น Domestic play ยังเห็นการเติบโตชัดเจนต่อเนื่อง เช่น ธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ ท่องเที่ยว อาหารและเครื่องดื่ม
แนะเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว
ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทย มีน้ำหนักมาจากปัจจัยภายนอกประเทศ ที่เชื่อมโยงกับการไหลเข้าออกของเงินทุนต่างชาติเป็นหลัก แรงหนุนด้าน Earning Season จึงมีน้ำหนักน้อยกว่า และไม่สามารถหนุนหุ้นใน SET Index ให้ปรับตัวขึ้นแบบยกแผงได้ การเก็งกำไรในช่วง Earning Season รอบนี้จึงต้องเลือกเป็นรายตัว และเน้นเก็งกำไรระยะสั้น โดยขายเมื่อได้ผลตอบแทนในระดับที่พอใจ หรือขายล่วงหน้าก่อนงบออก 1-2 วัน เพื่อลดความเสี่ยงในการถูก Sell on fact
ดังนั้น จากการประมาณการเบื้องต้นของ Yuanta Research พบว่ามี 8 กลุ่มใน 20 กลุ่ม หรือ 40% ที่นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/2565 จะโตมากกว่า 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมี 8 กลุ่มหรือ 40% ที่คาดว่ากาไรสุทธิจะโตในระดับ 5-20% ส่วนที่เหลืออีก 4 กลุ่ม คาดว่ากำไรสุทธิจะทรงตัวหรืออ่อนแอลง
ทำให้เกณฑ์การคัดเลือกหุ้นเพื่อเก็งกำไรในช่วง Earning Season รอบนี้ คือ
1. ผลประกอบการต้องโตต่อเนื่องถึงไตรมาส 4/2565 เป็นอย่างน้อย
2. Valuation ถูกกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต
3. เป็น Domestic หรือ Defensive play
4. ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ทนทานต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและดอกเบี้ยขาขึ้นได้ดี
สำหรับหุ้นที่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว ประกอบด้วย AH, BBL, BDMS, CPALL, GULF, GFPT, III, KISS, PLANB, SC, SNNP และ WHA
สังเกตว่าหุ้นที่ถูกแนะนำจะกระจายตัวในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งแตกต่างจากช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้า ที่เรามักจะเห็นภาพการ Upgrade หรือ Downgrade เป็นรายกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นเลยว่าการเก็งกำไรรอบนี้ ให้ความสำคัญเป็นรายหุ้นมากกว่ารายกลุ่มอุตสาหกรรมนั่นเอง
หมายเหตุ | บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำหรือแนะนำให้ซื้อ ถือหรือขายหุ้นแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ทิศทาง ‘หุ้น AOT’ เมื่อผู้โดยสารแน่นสนามบิน
- สำรวจ ‘P/E Ratio’ ตลาดหุ้นทั่วโลก กำลังลดลงต่อเนื่อง!!
- ส่อง หุ้น ‘CPF’ คาดราคาเนื้อสัตว์พุ่ง หนุนกำไรแกร่งถึงปีหน้า
