Stock

รู้จัก ‘BBIK’ หุ้นเทคโนโลยีไทย ที่กำลังโตวันโตคืน

เดือนกันยายนนี้ กำลังจะครบรอบ 1 ปีที่ หุ้น BBIK หรือ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) บริษัทดิจิทัลเทคโนโลยีของไทย ที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งในแง่ของการขยายธุรกิจในตลาดที่เป็นขาขึ้น และราคาหุ้นที่แรงทะลุ 100 บาทไปแล้ว จากราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 18 บาท ปรับเพิ่มขึ้นเกือบ 500% ภายใน 1 ปี ถือเป็น Growth Stock แห่งปีก็ว่าได้

BBIK ทำธุรกิจอะไร

BBIK เป็นที่ปรึกษาด้าน Digital transformation แบบครบวงจร ทั้งกลยุทธ์องค์กร แผนสื่อสารการตลาด การจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึงการจัดการนวัตกรรมและเทคโนโลยี ให้แก่ลูกค้าองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยลูกค้าหลักของบริษัทส่วนใหญ่จะอยู่กลุ่มอุตสาหกรรมประกัน ธนาคารและการเงิน เทคโนโลยี พลังงาน อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

shutterstock 1935046469

สามารถแบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

1. ธุรกิจให้คำปรึกษา (Consulting Service)

2. ธุรกิจให้บริการด้านแพลตฟอร์ม (Digital Platform) มีทั้งที่บริษัทพัฒนาขึ้นเอง เช่น HumanOS ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงการนำแพลตฟอร์มของพาร์ทเนอร์มาปรับใช้กับลูกค้าองค์กร เช่น SAP, Salesforce, Microsoft, AWS, IBM เป็นต้น

3. กลุ่มธุรกิจร่วมทุน (Joint Ventures) ในนามบริษัท “Orbit Digital” ที่ร่วมกับบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ทำเรื่อง Digital transformation และพัฒนาแพลตฟอร์ม Retail innovation

4. กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ (International Business) ปัจจุบันได้ตั้งศูนย์เทคโนโลยีในอินเดียและอังกฤษ เพื่อเจาะตลาดเอเชียและยุโรป

275319650 4956806194358407 6507682281038696428 n 1
ขอบคุณ:https://www.facebook.com/bluebikgroup/

จุดแข็งของ BBIK คือการใช้ความเชี่ยวชาญด้าน Consulting Service ที่หลากหลาย ต่อยอดไปสู่การให้บริการ Digital Platforms ให้กับลูกค้าที่เคยใช้บริการของบริษัท รวมถึงไม่หยุดที่จะแสวงหาการโตแบบ Inorganic โดยจับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง และสุดท้ายคือการมุ่งขยายการเติบโตออกไปยังต่างประเทศ

291457957 5269548069750883 1238618960176847979 n

BBIK กำไรดีแค่ไหน

ภาพรวมผลประกอบการในปี 2563 และ 2564 มีรายได้รวม 200.79 ล้านบาท และ 306.36 ล้านบาท ตามลำดับ เติบโต 52.57% ส่วนกำไรสุทธิ 43.90 ล้านบาท และ 66.49 ล้านบาท ตามลำดับ เติบโต 51.45% ถือว่าเป็นบริษัทที่สามารถทำอัตรากำไรสุทธิได้สูงถึง 22%

สำหรับผลประกอบการ 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 245.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93.51% จากช่วงปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 60.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% จากช่วงปีก่อน ปัจจัยการเติบโตมาจากทุกกลุ่มการบริการ และยังมีส่วนแบ่งกำไรจาก Orbit Digital ที่มากขึ้นด้วย

ขณะที่อัตราการทำกำไรก็ถือว่าสวยหรูทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัตรกำไรขั้นต้นที่ 57.39% EBIT Margin ที่ 28.80% และอัตรากำไรสุทธิที่ 25.08% นอกจากนี้ ในปีหน้าคาดว่ามาร์จินจะดีขึ้นกว่านี้อีก เพราะผลประโยชน์จากการได้รับสิทธิ BOI ที่จะมีการปรับลดอัตราภาษี

2022 08 17 AW Q2 Performance 960x1200 TH 819x1024 1
ขอบคุณ:https://bluebik.com/th/

ตั้งเป้าทะยานสู่บริษัทท๊อป 100 ในไทย

BBIK ประกาศเป้าหมายที่ท้าทายอย่างมาก นั่นคือการยกระดับสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนใน SET และคาดหวังที่จะติดอันดับในการคำนวณของดัชนี SET100 ให้ได้ภายในปี 2568 ด้วยการเพิ่มฐานทุนจดทะเบียน ภายใต้กลยุทธ์เครื่องมือทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายปันผลเป็นหุ้น หรือการเพิ่มทุนเพื่อโอกาสต่อยอดการเติบโต

อีกทั้ง มีแผนการเติบโตของรายได้ในระดับ 2,000 ล้านบาท ภายใต้เป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยปีละ 70% อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขยายคตวามแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจเดิม โดยมีแผนเปิดบริษัทลูกเพิ่มอีก 2 บริษัท ได้แก่ “Bluebik Titans” เน้นในการให้คำปรึกษาด้าน Cyber security และ “Bluebik Nexus” เน้นในด้าน Digital platform & Blockchain solution

รวมทั้งสร้างการเติบโตในรูปแบบของ Inorganic Growth ผ่านการซื้อกิจการ (M&A) และการร่วมทุนกับพันธมิตร (Joint Venture) ซึ่ง “คุณพชร อารยะการกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เผยว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นการทำ M&A จำนวน 1 ดีล ภายในสิ้นปีนี้

20220105 111417 1
ขอบคุณ: https://investor.bluebik.com/th/updates/press-releases

ต้องบอกว่าเป็นบริษัทที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างมากสำหรับ BBIK ที่เริ่มต้นจากการเป็น Consult เล็กๆ ล้มลุกคลุกคลานอยู่นาน กระทั่งสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ แถมธุรกิจก็อยู่ในเมกะเทรนด์ที่มีโอกาสโตได้อีกมาก แต่ทั้งนี้ใครที่สนใจลงทุน อย่าลืมพิจารณาความเสี่ยงด้วย เพราะบริษัทที่ดีกับการลงทุนที่ดีเป็นคนละเรื่องกัน

ปัจจุบันราคาหุ้น BBIK ขึ้นมาพอสมควร โดยมีค่า P/E เท่ากับ 123.57 เท่า และ P/BV อยู่ที่ 21.14 เท่า คำถามคือมูลค่าหุ้นแพงไปหรือยัง คำตอบอยู่ที่ว่าเราเชื่อมั่นในแผนการเติบโตทั้ง Organic growth และ Inorganic growth ของบริษัทมากน้อยแค่ไหน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน