ทีวีไดเร็ค น่าสนใจแค่ไหน? หลังจากจัดทัพองค์กรใหม่ เปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น โครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างรายได้ และกำหนดทิศทางเตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อยกระดับเป็น “ซูเปอร์โฮลดิ้ง คัมปานี”
บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น TVD โลดแล่นอยู่ในธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งและออนไลน์ช้อปปิ้ง กว่า 20 ปี โดยมีโมเดลแบบ Omni Channel ผ่านช่องทางขายสินค้าที่หลากหลาย เช่น เสนอขายสินค้าทางทีวี, เสนอขายสินค้าผ่าน Call Center, เสนอขายสินค้าผ่านสื่อสิ่งพิมพ์, บริการจัดจำหน่ายสินค้าทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน, บริการแบบขายปลีกผ่านร้านค้า TVD Shop รวมถึงการขายส่งสินค้าแก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทีวีไดเร็ค กับผลประกอบการช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป คนดูทีวีลดลง หันไปซื้อของผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจหลักของ TVD ทำให้ผลการดำเนินงานตกอยู่ในช่วงที่ยากลำบาก โดยตั้งแต่ปี 2562-2564 มีรายได้และกำไรสุทธิ ดังนี้
ปี 2562 รายได้ 4,280.55 ล้านบาท กำไรสุทธิ 13.38 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 3,736.95 ล้านบาท กำไรสุทธิ 28.34 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 2,756.07 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 259.82 ล้านบาท
ทำให้ TVD ต้องตัดสินใจแก้เกมธุรกิจ เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยรุกขยายธุรกิจสร้างรายได้ใหม่ๆ และเร่งล้างผลขาดทุนที่เกิดขึ้น เพื่อผลักดันราคาหุ้นที่ซึมมานานให้สดชื่นอีกครั้ง
เพิ่มทุน 817 ล้านบาท รองรับการทรานฟอร์มธุรกิจ
TVD เสริมความแข็งแกร่งด้านการเงินเพื่อรองรับการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยออกหุ้นเพิ่มทุนเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ซึ่งประสบความสำเร็จได้เงินระดมทุน 817 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้
โดยมีเป้าหมายนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน แบ่งเป็น 30% สำหรับใช้แก้ไขเปลี่ยนแปลงธุรกิจเดิม 10% เป็นเงินทุนหมุนเวียน ส่วนอีก 60% เป็นการลงทุนในธุรกิจใหม่ เช่น Automate Robotic Telephony และต่อยอดสู่ธุรกิจที่เป็น New Economy เพื่อสร้างการเติบโตผ่านกลยุทธ์ 2G (Growth and Gain)
ดึง “วิชัย ทองแตง” เสริมทัพ ทีวีไดเร็ค
เรียกเสียงฮือฮาทีเดียว เมื่อล่าสุด “วิชัย ทองแตง” นักลงทุนรายใหญ่ของเมืองไทย เข้าซื้อหุ้น TVD จำนวน 155 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 8.80% ของหุ้นทั้งหมด ทำให้กระแสของหุ้น TVD ถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้ง และราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นรับข่าวนี้กันอย่างคึกคัก
วิชัย ทองแตง มีชื่อเสียงในการลงทุนหุ้นเทิร์นอะราวด์ (Turn Around) เป็นที่รู้จักอย่างมากจากการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) หรือ EFORL และเขายังติดอันดับ 20 มหาเศรษฐีหุ้นไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 6 หมื่นล้านบาท
มีการเปิดเผยว่าสาเหตุที่ วิชัย ทองแตง เข้ามาถือหุ้น TVD เพราะมองว่าเป็นการลงทุนในตลาดที่เขาถนัด และเห็นศักยภาพของบริษัทที่มีธุรกิจหลากหลาย และมีโอกาสกลับมาเทิร์นอะราวด์ โดยเฉพาะธุรกิจด้าน B2B ที่มีธุรกิจหลายประเภท อาทิ Call Center, Logistic and Fulfillment , Direct response agency ฯลฯ
TVD ยกระดับสู่การเป็น ซูเปอร์โฮลดิ้ง คัมปานี
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2565 บอร์ด TVD อนุมัติการปรับโครงสร้างบริษัท เพื่อให้เป็น Holding Company พร้อมจัดทัพองค์กรใหม่ เปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น โครงสร้างธุรกิจ โครงสร้างรายได้ และกำหนดทิศทางเตรียมปรับโครงสร้างธุรกิจ เพื่อยกระดับเป็น “ซูเปอร์โฮลดิ้ง คัมปานี” (Super Holding Company) ในอนาคต
TVD ต้องการจะมีธุรกิจที่หลากหลายมากกว่าโฮมช้อปปิ้งหรืออีคอมเมิร์ซ โดยมีแผนเข้าร่วมทุนกับบริษัทชั้นนำในหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจสุขภาพ กลุ่มธุรกิจการศึกษา กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร และสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ
ล่าสุด TVD ก็ได้ประกาศเข้าลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ (Bitcoin Mining) โดยจัดซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์จำนวน 25 เครื่อง มูลค่าการลงทุน 25 ล้านบาท พร้อมด้วยการเข้าลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี เหรียญ KUB ในวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท เพื่อเป็นการขยายธุรกิจที่จะสามารถสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัทในอนาคต
ความน่าสนใจของ TVD โฉมใหม่ คือ การทรานฟอร์มสู่ธุรกิจที่หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งจะค่อยๆ ลดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเดิมที่เป็นทีวีช้อปปิ้ง แล้วไปเติบโตในธุรกิจใหม่ๆ โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% ภายใน 5 ปี แต่จุดที่ต้องระวัง คือ ปัจจุบันบริษัทมีผลขาดทุนสะสมอยู่ราว 565 ล้านบาท ความท้าทายคือ ต้องพลิกกลับมามีกำไรให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะล้างขาดทุนสะสมให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- อนาคตหุ้น ‘โรงหนัง MAJOR’ หลังผ่านพ้นจุดต่ำสุด
- ส่อง ‘6 ดีลร่วมทุน GULF’ ยกระดับศักยภาพธุรกิจ
- ‘กัลฟ์-SCG’ จับมือตั้งบริษัทร่วมทุน ‘เอสจี โซล่าร์’ ทำธุรกิจ ‘พลังงานแสงอาทิตย์’
