รู้จักหุ้นเบทาโกร (BTG) ไอพีโอตัวใหม่ ธุรกิจอาหารครบวงจร ผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และอาหารครบวงจรชั้นนำในประเทศไทย
ในปีนี้เราน่าจะได้เห็น “บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)” โดยจะใช้ชื่อย่อว่า BTG เข้าระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หลังจากที่ล่าสุด เบทาโกร ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อย เพื่อเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวนไม่เกิน 500 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25% ของหุ้นทั้งหมด ราคาพาร์ 5 บาทต่อหุ้น
เชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับธุรกิจของเบทาโกร กันมาบ้างอยู่แล้ว เพราะมีผลิตภัณฑ์อาหารมากมายที่อยู่รอบตัวเรา อย่างไรก็ดี บทความนี้จะพาไปเจาะรายละเอียดของว่าที่หุ้น BTG กันให้ลึกซึ่งยิ่งขึ้น ว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องรู้ และน่าสนใจลงทุนยังไง
เบทาโกร ทำธุรกิจอะไรบ้าง
เป็นผู้ประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรชั้นนำในประเทศไทย ที่มีประสบการณ์กว่า 55 ปี โดยมีธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์สุกร สัตว์ปีก ไข่ไก่ อาหารแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง ฟาร์มเชิงพาณิชย์ การชำแหละและการแปรรูปเนื้อสัตว์
แบ่งเป็น 5 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มธุรกิจเกษตร 2. กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน 3. กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ 4. กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง และ 5. กลุ่มธุรกิจอื่นๆ
นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ชั้นนำ เช่น BETAGRO, S-Pure, ITOHAM, Better Pharma, Nexgen, Perfecta และ DOG n joy ฯลฯ
ภาพรวมผลประกอบการในปี 2562 – 2564 รายได้รวมเติบโตต่อเนื่อง สาเหตุมาจากกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม การหันมาผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์บรรจุภัณฑ์และอาหารแปรรูป แทนการขายสุกร ไก่ และปลาที่ยังมีชีวิต รวมถึงการขยายไปสู่กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
ส่วนผลกำไรในปี 2563 ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเติบโตของยอดขาย การลดลงของต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ส่วนปี 2564 มีกำไรหดตัวลง เพราะการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และต้นทุนทางการเงินตามการเพิ่มขึ้นของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย
ขณะที่ล่าสุดในไตรมาส 1 ปี 2565 เบทาโกรสามารถสร้างผลการดำเนินงานเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวม 26,163.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิเติบโต สู่ระดับ 1,966.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยสำคัญมาจากการเติบโตของปริมาณการขายและราคาสินค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเกษตร กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ และกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง
เบทาโกรระดมทุนไปทำอะไร
เบทาโกร มีแผนนำเงินไปใช้ขยายธุรกิจด้วยการซื้อฟาร์มและโรงงานแห่งใหม่ เช่น โรงงานแปรรุปอาหารและเนื้อสัตว์ โรงงานผลิตไข่ไก่และโปรตีนทางเลือก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่าง กัมพูชา ลาว และเมียนมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุปทาน ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้ในการปรับโครงสร้างเงินทุนและเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินกิจการ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
ความน่าสนใจของหุ้นเบทาโกร
1. เป็นผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเกษตรอุตสาหกรรมที่ครบวงจร โดยมีขนาดใหญ่เป็นรองเพียงแค่ CPF เจ้าเดียวเท่านั้น
2. มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นแบรนด์ระดับพรีเมียมที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
3. ช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย มีช้อปเป็นของตัวเอง สามารถเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ
4. เน้นนวัตกรรมความปลอดภัยด้านอาหารและคุณภาพของผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมียม
5. วิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มากประสบการณ์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ปีทองหุ้นโรงกลั่น’ BCP-SPRC-TOP ค่าการกลั่น พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
- หุ้นได้รับประโยชน์ จาก ‘วิกฤตอาหารขาดแคลน’
- จัดทัพ 7 หุ้นปันผล ‘สู้เงินเฟ้อ’