เป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันใกล้ชิดอีกครั้ง เมื่อมีกระแสข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทบทวนเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อ และการกำกับดูแลบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อจำนำทะเบียน โดยมาตรการระยะถัดไปคือการเร่งส่งเสริมการแข่งขันให้อัตราดอกเบี้ยต่ำลง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนที่สูงเกือบ 90%
สำหรับแผนแก้ปัญหาหนี้สินประชาชน 5 ประเภทของรัฐบาล มีดังนี้
1. ไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สิน เช่น หนี้ กยศ. หนี้สหกรณ์
2. ลดภาระดอกเบี้ยของประชาชน ทั้งสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และนาโนไฟแนนซ์
3. ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของครูและข้าราชการ รวมถึงปรับลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ไม่จำเป็น
4. ยกระดับการกำกับดูแล
5. เพิ่มการเข้าถึงแหล่งทุนให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนามย่อม (SMEs)
อย่างไรก็ดี ในบทความนี้จะขอพูดถึงเฉพาะประเด็นสำคัญในแง่ของการลงทุน เนื่องจากเป็นปัจจัยที่เกิดความกังวลต่อความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มธนาคารและไฟแนนซ์ เพราะอัตราดอกเบี้ยมีผลต่อกระทบต่อรายได้ของธุรกิจกลุ่มนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อลองสำรวจความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาก็พบว่าราคาหุ้นปรับลดลงกันยกกระดาน ประกอบด้วย
หุ้นกลุ่มสินเชื่อรายย่อยและบัตรเครดิต
หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์
ปรับเพดานอัตราดอกเบี้ยลง 1% กระทบกำไรแค่ไหน?
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส วิเคราะห์ Sensitivity Analysis พบว่าทุกๆ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มเช่าซื้อ โดยคาดว่าจะส่งผลต่อกำไรสุทธิของหุ้น TIDLOR ลดลง 18.3%, MTC ลดลง 12.8%, AEONTS ลดลง 9.2% และ SAWAD ลดลง 7.0%
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ ระบุว่าดอกเบี้ยที่ลดลง 1% มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในประมาณการกำไรปี 2564 สำหรับกลุ่มไฟแนนซ์-ลีสซิ่ง ได้แก่ KTC ลดลง 10%, SAWAD ลดลง 6%, TIDLOR ลดลง 5% และ MTC ลดลง 3%
ขณะที่กลุ่มธนาคารอย่าง BBL, KBANK, TTB, TISCO, KKP, LHFG น่าไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อประมาณการกำไรปี 2564 ขณะที่ BAY มีผลกระทบต่อประมาณการกำไรลดลง 3% และ KTB ลดลง 1%
ทั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มธนาคารมี Exposure ต่อสินเชื่อเหล่านี้เล็กน้อย โดยส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบในสินเชื่อบัตรเครดิตซึ่งคิดอัตราดอกเบี้ยใกล้เพดาน แต่สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจำนำทะเบียนรถส่วนใหญ่คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเพดานค่อนข้างมาก
สุดท้ายแล้วประเด็นนี้คงต้องติดตามความชัดเจนอีกครั้งครับว่าข้อกำหนดดังกล่าวจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ทาง ธปท. ได้ปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลไปแล้วตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2563 ทั้งดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลเหลือ 25% (เดิม 28%) สินเชื่อจำนำทะเบียนปรับลดลงเหลือ 24% (เดิม 28%) และดอกเบี้ยบัตรเครดิตลงเหลือ 16% (เดิม 18%)
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หุ้น ‘BEM’ Top Pick รับเปิดเมือง – ตัวเต็งประมูลสายสีส้ม – สายสีม่วงใต้
- ลงทุนยังไงดี ในภาวะ ‘Stagflation’ ที่เศรษฐกิจกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
- รู้จัก ‘NVDR’ พลังเม็ดเงินลงทุนต่างชาติต่อหุ้นไทย