ถ้าติดตามข่าวสารการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา หลายคนน่าจะได้เห็นพลังของ NVDR หรือ บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จากกรณีที่ออกมาประกาศชะลอการลงทุนในหุ้น KBANK เนื่องจากอาจมีสัดส่วนถือหุ้นเกินกว่าเพดาน 25% ซึ่งเป็นอัตราที่แบงก์ชาติอนุญาต
หลังจากที่ NVDR ประกาศเรื่องนี้ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาหุ้น KBANK ก็ร่วงหนักในเวลาอันรวดเร็ว กระทั่งผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ NVDR ขอแจ้งยกเลิกเรื่องระงับการลงทุน เนื่องจากสัดส่วนถือหุ้น KBANK กลับมาอยู่ในระดับปกติแล้ว จึงทำให้ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นเหมือนที่เราเห็น
คำถาม คือ ทำไมการประกาศเข้าลงทุนของ NVDR ถึงมีผลกระทบต่อความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นขนาดนี้ แล้ว NVDR คือใคร? ลองมาทำความรู้จักในบทความได้เลยครับ
NVDR คือใคร?
ถ้าใครเคยไล่ดูรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทต่างๆ คงเคยเห็นชื่อของ “ไทยเอ็นวีดีอาร์” กันอยู่บ้าง โดยชื่อเต็มๆ ก็คือ บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดตั้งขึ้นมาในปี พ.ศ. 2543
จุดประสงค์ในการจัดตั้ง NVDR ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการกระตุ้นการลงทุนและเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด เพราะหลังจากปี 2540 ประเทศไทยประสบปัญหาตลาดซบเซา เพราะคนในประเทศไม่มีเงินมากพอมาซื้อหุ้น ดังนั้น จึงต้องการให้ NVDR เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนในหุ้นไทยง่ายขึ้น โดยไม่ต้องติดข้อจำกัดกฎหมายเรื่อง Foreign Limit
รูปแบบการลงทุนผ่าน NVDR จะเป็นการออกใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย (Non-Voting Depository Receipt) แปลง่ายๆ ถ้าเกิดเราซื้อ NVDR ของหุ้นตัวหนึ่งไป เราจะมีสิทธิได้รับผลประโยชน์จากหุ้นตัวที่ซื้อไปเหมือนกับการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทุกประการ เช่น เงินปันผล, กำไรจากส่วนต่างราคา, สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน
ทว่าสิ่งที่แตกต่างระหว่างการซื้อ NVDR กับการซื้อหุ้นทั่วไป นั่นคือผู้ถือ NVDR ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนใดๆ ในการประชุมผู้ถือหุ้น และจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับการตัดสินใจของบริษัท ทั้งนี้แม้ NVDR จะมีไว้เพื่อส่งเสริมการลงทุนของชาวต่างชาติ แต่คนไทยก็สามารถซื้อ NVDR ได้เช่นเดียวกัน
ทำไม NVDR ถึงมีอิทธิพลต่อหุ้นไทย?
มองแบบง่ายๆ Thai NVDR เปรียบเสมือนกองทุนที่ชาวต่างชาติ นำเงินมาซื้อหุ้นไทย เรียกว่าเราสามารถดูได้เลยว่า ตอนนี้นักลงทุนต่างชาติสนใจหุ้นไทยตัวไหนเป็นพิเศษ จากการที่ บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด เข้าไปถือหุ้นในบริษัทได้เลย
และเป็นที่รู้ๆ กันว่ามูลค่าการลงทุนของ NVDR นั้นมหาศาลอย่างมาก โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15 – 20% ของมูลค่าตลาดทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าซื้อขายวันละประมาณ 38,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้น การขยับตัวของ NVDR แต่ละครั้งเลยมีผลต่อความเคลื่อนไหวของตลาดนั่นเอง
ลองมาดูตัวอย่างบริษัทในตลาดหุ้นไทย ที่ปัจจุบัน NVDR เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อย่างเช่น
– BBL ไทยเอ็นวีดีอาร์ ถือหุ้นที่สัดส่วน 22.74% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท
– KBANK ไทยเอ็นวีดีอาร์ ถือหุ้นที่สัดส่วน 21.76% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท
– LH ไทยเอ็นวีดีอาร์ ถือหุ้นที่สัดส่วน 15.40% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท
– TU ไทยเอ็นวีดีอาร์ ถือหุ้นที่สัดส่วน 15.06% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท
– INTUCH ไทยเอ็นวีดีอาร์ ถือหุ้นที่สัดส่วน 14.44% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ลงทุนยังไงดี ในภาวะ ‘Stagflation’ ที่เศรษฐกิจกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
- 10 อันดับหุ้นใหญ่ ‘กำไรสูงสุด’ ไตรมาสแรก ปี 64
- เกิดอะไรขึ้นกับ CPALL? ‘กำไรร่วงหนัก’ ผลงานต่ำกว่าที่คาด
