ตรวจสอบผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 ธนาคารพาณิชย์ 10 แห่งในตลาดหลักทรัพย์ กำไรสุทธิรวมถึง 121,917.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 ธนาคารพาณิชย์ 10 แห่งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีกำไรสุทธิรวมกันถึง 121,917.19 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 105,795.63 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักเป็นผลมาจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ที่หนุนให้รายได้ดอกเบี้ยของธนาคาร มีการเติบโต รวมไปถึงรายได้จากค่าธรรมเนียม ประกอบกับการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อบริหารจัดการ NPL ได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ เราได้สรุปรายได้และกำไรในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ของ KBANK, SCB, BBL, KTB, BAY, TTB, KKP, TISCO, CIMBT และ LHFG มาฝากกันแบบครบ ๆ จบในที่เดียว
รวบรวมข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2566
KBANK เป็นธนาคารที่มีรายได้รวมมากที่สุด ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ของธนาคารและทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีกำไรลดลงเล็กน้อย เนื่องจากยังคงดำเนินการตามหลักความระมัดระวังอย่างสม่ำเสมอในการพิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ตลอดจนการจัดการลูกค้าธุรกิจรายใหญ่รายหนึ่งที่เริ่มมีสัญญาณความเสื่อมถอยในไตรมาสก่อน
SCB เป็นธนาคารที่มีกำไรสุทธิมากที่สุด เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวดีขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียมและการเติบโตของรายได้ของการลงทุนจากปีก่อน รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมทางการเงิน และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานโดยรวมไตรมาส 2/2566 แข็งแกร่ง โดยมี ROE เพิ่มขึ้นไปสู่ระดับ 10% เป็นครั้งแรกนับจากวิกฤตโควิด
BBL เป็นธนาคารที่่มีกำไรปรับเพิ่มขึ้นสูงสุด โดยส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 36% สอดคล้องกับภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2.88% ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิอยู่ในระดับใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับมุมมองในช่วงครึ่งปีหลัง พบว่าธนาคารหลายแห่งมองค่อนข้างตรงกันว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ ด้วยแรงขับเคลื่อนสำคัญจากภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ความเชื่อมั่นและการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น
แต่ภาคการส่งออกยังคงเผชิญแรงกดดันจากอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอ ทำให้ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับความเสี่ยงในเรื่องความไม่แน่นอนของตลาดการเงินและระบบเศรษฐกิจโลก ดังนั้น ธุรกิจธนาคารจึงต้องดำเนินธุรกิจตามหลักความระมัดระวังรอบคอบภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เช็กเลย!! หุ้นที่ลงแรงหลังเลือกตั้ง รีบาวด์กลับมาแล้วหรือยัง?
- กว่า 64 ปี!! เจาะหุ้น KCG ผู้ผลิตคุกกี้กล่องแดงกำลังจะ IPO
- ไฟเขียว ‘บางจาก’ ควบรวม ‘เอสโซ่’ คาดอัพไซด์ 5-8 บาทต่อหุ้น