Stock - Finance

‘January Effect’ ปีนี้มีโอกาสสูง หนุนหุ้นไทยกลับมาสดใส

“January Effect” ปีนี้มีโอกาสสูง หนุนหุ้นไทยกลับมาสดใส เปิดหุ้น Top Picks รับ January Effect

ทุกเดือนมกราคมเราจะคงหนีไม่พ้นที่จะต้องเขียนถึง January Effect เป็นทฤษฎีที่ว่ากันว่าตลาดหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นได้ดีในเดือนมกราคม ซึ่งคำอธิบายมีหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อว่านักลงทุนจะขายหุ้นทำกำไรในช่วงสิ้นปี ก่อนจะกลับเข้าตลาดอีกครั้งช่วงต้นปี, การทำ Window Dressing ของกองทุนขนาดใหญ่ รวมถึงการจับจังหวะเข้าซื้อหุ้นก่อนเทศกาลจ่ายปันผล เป็นต้น

แม้เราจะรู้ดีว่า January Effect เป็นเพียงสมมุติฐาน ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทุกปีกับทุกตลาด แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยแล้ว ค่อนข้างเคลื่อนไหวสอดคล้องไปตามทฤษฎี January Effect มากทีเดียว

เพราะเมื่อย้อนดูข้อมูลสถิติ 10 ปีย้อนหลัง (2014-2023) พบว่า SET Index เป็นบวกในเดือนมกราคมถึง 7 ครั้ง หรือคิดเป็น 70% ของทั้งหมด นอกจากนี้ การเข้าลงทุนในเดือนมกราคมยังเป็นหนึ่งในเดือนที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่นที่สุดอีกด้วย โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 1.30%

shutterstock 18270506782

ถามว่ากลุ่มอุตสาหกรรมไหนที่ปรับตัวขึ้นเด่นในเดือนมกราคมบ้าง คำตอบคือ Finance & Securities, Agribusiness, Transport และ Banking

สำหรับปีนี้ ก็มีโอกาสสูงที่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย January Effect เกิดขึ้นอีกหน สาเหตุเป็นเพราะว่านักลงทุนมองว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยจะปรับตัวดีขึ้น และภาวะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราเร่งเมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ปีที่ผ่านมา ตลาดอยู่ในช่วงอ่อนแอเอามากๆ และถือเป็นประเทศที่ตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนย่ำแย่ที่สุดในโลก ดังนั้น หลายฝ่ายจึงเชื่อว่าปีนี้หุ้นไทยจะพลิกฟื้น และมีแรงซื้อสะสมเข้ามาในตลาดหุ้น เพราะตลอด 25 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่หุ้นไทยติดลบ 2 ปีติดต่อกัน

หุ้น Top Picks รับ January Effect

บทวิเคราะห์ บล. หยวนต้า มองว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่มักปรับตัวขึ้นเด่นในเดือนมกราคม ได้แก่ กลุ่มธนาคาร และกลุ่มขนส่ง-โลจิสติก แต่ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักกับหุ้นกลุ่มธนาคารมากกว่า เนื่องจากมีปัจจัยบวกที่ชัดเจน นั้นคือความคาดหวังต่อการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ ประกอบกับหุ้นในดัชนี SET50 SET100 ก็มีสัดส่วนน้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารมากกว่าเดิมรวมทั้งคาดการณ์เงินปันผลของหุ้นกลุ่มธนาคารปี 2567 อยู่ในระดับสูง KBANK อยู่ที่ 4% BBL อยู่ที่ 7% SCB อยู่ที่ 6.5% และ TISCO อยู่ที่ 8.4%

shutterstock 2406361705

ส่วนบทวิเคราะห์ บล. กสิกรไทย มองว่าในปี 2567 มีลุ้นปรากฎการณ์ January Effect เนื่องจากเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้าไทย จากอ่อนค่าของ USD คาด SET ปรับขึ้นในกรอบ 1,410-1,420 จุด หุ้นแนะนำคือ SCB และ GPSC

สุดท้ายเป็นมุมมองของ บล. ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า January Effect มีโอกาสเกิดขึ้นกับ SET หลังจากดัชนีปรับตัวลงแรงในปี 2566 โดยคงเป้าหมาย SET ปี 2567 ที่ 1,520 จุด และมองว่าระดับดัชนีปัจจุบันน่าสนใจลงทุนในระยะยาว หุ้น Top Pick ในปี 2567 ยังคงเป็น AOT, BCH, CPALL, CPN, GPSC, MINT, SJWD, TIDLOR, และ TU

อ่านข่าวเพิ่มเติม 

ติดตามเราได้ที่

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน