แนวทางการลงทุนในตลาดหุ้น – ตลาดตราสารหนี้ และการลงทุนสกุลเงินต่างประเทศ ปี 2024 จาก Morning Star Thailand
Morning Star Thailand ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ สำหรับโอกาสการลงทุนในตลาดหุ้น ตลาดตราสารหนี้ และการลงทุนในสกุลเงินต่างประเทศ ประจำปี 2024 วันนี้เราจึงได้สรุปประเด็นสำคัญมาฝากทุกคน เพื่อเป็นแนวทางนำไปสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าในปีนี้
โอกาสการลงทุนในตลาดหุ้น 2024
มองว่าการลงทุนบางอุตสาหกรรมในบางประเทศ จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดโดยรวม จึงให้คำแนะนำกลุ่มที่น่าสนใจ ดังนี้
1. หุ้นขนาดเล็ก: เนื่องจากราคาปรับลงมาค่อนข้างมาก ปัจจุบันมูลค่าตลาดยังต่ำกว่าที่ควรจะเป็น แนะนำเน้นลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพดี เพื่อลดความผันผวนไปตามภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนไหวสูง
2. หุ้นธนาคาร กลุ่มสื่อสาร กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มสาธารณูปโภค: คืออุตสาหกรรมที่น่าลงทุน เพราะที่ผ่านมาราคาหุ้นธนาคารถูกกระทบจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่สูงขึ้น และปัญหาวิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนความเสี่ยงเหล่านี้ไปมากแล้ว ส่วนหุ้นสาธารณูปโภคและสุขภาพ นั้นน่าสนใจเนื่องจากระดับราคาลงมามาก รวมถึงกลุ่มสื่อสารแม้ว่าที่ผ่านมาระดับราคาหุ้นไม่ได้ปรับลดลง แต่ก็คาดว่าจะยังคงให้ผลตอบแทนที่ดี และช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุนได้
3. ตลาดหุ้นในอังกฤษ ตลาดเกิดใหม่ และหุ้นเทคโนโลยีจีน: แม้มีความผันผวนมากแต่ก็น่าลงทุน ด้วยราคาซื้อขายที่ยังต่ำ ทำให้มี Upside ได้รับผลตอบแทนที่สูง
4. ลงทุนในบริษัทสหรัฐ ที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI: ซึ่งราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้ยังอยู่ในระดับที่ลงทุนได้ และมีโอกาสที่กำไรจะปรับสูงขึ้นได้ในอนาคต จากการพัฒนาสินค้าและบริการ ตลอดจนการปรับปรุงธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ภาพรวมมูลค่าของตลาดหุ้นในปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจลงทุน หลังจากก่อนหน้านี้ปรับลดลงจากความกังวลในเรื่องต่างๆ แม้กระทั่งตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ถูกขับเคลื่อนจากหุ้นไม่กี่ตัวอย่าง “Magnificent Seven” แต่ก็ยังมีหุ้นอื่นๆ ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐ ขนาดเล็ก
โอกาสการลงทุนในตราสารหนี้ 2024
ขณะที่ตราสารหนี้แนะนำการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลมากที่สุด และลงทุนในสกุลเงินต่างประเทศแทนดอลลาร์สหรัฐ โดยสรุปออกมาดังนี้
1. ลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนที่แท้จริงเป็นบวก: เช่น ตราสารหนี้ในประเทศพัฒนาแล้ว เนื่องจากดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นมากแล้ว โดยเฉพาะตราสารหนี้อายุสั้นที่ยังให้ผลตอบแทนสูงกว่าตราสารหนี้อายุยาว (Inverted yield curve), การลงทุนใน Mortgage-backed securities เนื่องจากดอกเบี้ยเงินกู้ในภาคอสังหาริมทรัพย์อยู่ในระดับที่สูงมากและระดับราคาน่าสนใจ, การลงทุนในตราสารหนี้ประเทศเกิดใหม่ เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่สูงจากอัตราดอกเบี้ยและค่าเงิน และการลงทุนใน Inflation-linked bonds
2. ลงทุนในตราสารหนี้อายุสั้น: เนื่องจากปัจจุบันให้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารระยะยาว หรืออยู่ในภาวะ Inverted yield curve แต่ก็มีความเสี่ยงจากการที่ต้องลงทุนใหม่โดยอาจได้รับผลตอบแทนน้อยกว่าเดิมได้ เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่ต่ำลงในอนาคต ซึ่งต่างจากการลงทุนในตราสารระยะยาวที่สามารถล็อกผลตอบแทนที่กำหนดให้คงอยู่ได้ยาวนานกว่า
3. ให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารภาครัฐที่มากกว่า: แม้ว่าตราสารหนี้เอกชนจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าก็ตาม แต่เนื่องด้วยส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนของตราสารภาครัฐและเอกชนเริ่มแคบลงจากช่วงก่อนหน้า (Credit spreads)
สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือการบริหารพอร์ตลงทุนโดยสร้างรายได้เพิ่มจากการลงทุนในตราสารหนี้โดยที่ไม่เกิดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ รวมถึงระมัดระวังการลงทุนในตราสารหนี้ที่มี Duration ยาวๆ ซึ่งค่อนข้างผันผวนสูงไปตามท่าทีของทิศทางการเงินของธนาคารกลางและอัตราเงินเฟ้อ
แนวทางการบริหารค่าเงิน 2024
แม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ จะเป็นเหมือนการลงทุนที่ดีในช่วงเศรษฐกิจแย่ แต่มูลค่าปัจจุบันเริ่มแพงมากขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินประเทศอื่นๆ ดังนั้น การหาโอกาสลงทุนในสกุลเงินอื่นนอกเหนือจากดอลลาร์สหรัฐจึงน่าสนใจมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น ลงทุนในเงินเยนของญี่ปุ่น นอกจากช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตลงทุนแล้ว ยังปกป้องเงินลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวนหรือตลาดแย่มากๆ และยังมีโอกาสให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นในอนาคตอีกด้วย
- ‘บล.ทิสโก้’ คัด 7 หุ้นเด่นเดือน ม.ค. มองเป้า SET Index สิ้นปีที่ 1,550 จุด
- ‘ทรีนีตี้’ คัด 7 หุ้นเด่นน่าลงทุนรับไตรมาสแรกปีมังกร เชื่อเฟดยังไม่ลดดอกเบี้ย
- ‘บล.กสิกรไทย’ มองเป้าหุ้นไทยปี 67 ที่ 1,470 จุด พร้อมแนะหุ้นเด่น 5 กลุ่ม
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg