“ไทย-จีน” ฟรีวีซ่าถาวร หนุนหุ้นท่องเที่ยวแค่ไหน? ขณะที่การท่องเที่ยวฯ ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวจีนปี 2567 ไว้ที่ 8 ล้านคน
จากกรณีที่ประเทศไทยและจีนเตรียมปลดล็อคการเดินทางท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศ ด้วยการยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกันแบบถาวร โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 นี้เป็นต้นไป เพื่อเป็นการยกระดับความสัมพันธ์และกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว
การยกเว้นวีซ่าระหว่างกัน จะทำให้คนไทยไปเที่ยวจีนเยอะขึ้น ขณะเดียวกันก็จะดึงนักท่องเที่ยวจีนให้เข้ามายังไทยมากขึ้น ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวจีนปี 2567 ไว้ที่ 8 ล้านคน
ฟรีวีซ่าถาวร “ไทย-จีน”
อย่างไรก็ตาม ต้องรอตอนตรุษจีนถึงจะเห็นความชัดเจนว่าในปีนี้จะมีคนจีนมาไทยมากแค่ไหน หากมีการจองเที่ยวบินเต็ม หรือมีการเพิ่มเที่ยวบินเช่าเหมาลำก็จะเป็นสัญญาณบวกที่ตลอดปีคนจีนจะมาไทยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ แน่นอนว่าประเด็นดังกล่าวถือเป็นปัจจัยบวกที่หนุนให้ “หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (TOURISM)” กลับมาน่าสนใจยิ่งขึ้นอีกครั้ง มุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าจะเป็น Upside ต่อภาคการท่องเที่ยวในปี 2567 โดยเฉพาะทิศทางจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งตลาดประเมินกรอบไว้ที่ระดับ 32-35 ล้านคน
นอกจากนี้ ประเมินว่าจะช่วยหนุนดุลบริการปี 2567 ให้มีทิศทางเป็นบวกเพิ่มเติมจากคาดการณ์เดิม ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ทิศทางค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง หลังล่าสุดอยู่ที่ 34.2 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และระยะสั้นมีโอกาสแข็งค่าลงมาทดสอบ 34 บาท รับข่าวดีดังกล่าวที่มองว่าเป็นบวกต่อทิศทาง Fund Flow เข้าประเทศ
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน บล. กรุงศรี พัฒนสิน แนะนำว่าเป็นบวกต่อหุ้นท่องเที่ยวในสายต่างๆ ดังนี้
หุ้นสนามบิน ได้แก่ AOT: บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
หุ้นโรงแรม ได้แก่ ERW: บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), CENTEL: บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน), MINT: บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
หุ้นสายการบิน ได้แก่ AAV: บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน), BA: บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
หุ้นค้าปลีก ได้แก่ CPALL: บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
หุ้นร้านอาหาร ได้แก่ AU: บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน)
ส่วนหุ้น Top Pick ที่แนะนำลงทุนให้เน้นไปที่ AOT, CENTEL, MINT เนื่องจากคาดว่ากำไรปี 2567 จะฟื้นตัวโดดเด่น นอกจากนี้ ยังมี CPALL ที่มีสาขาในพื้นที่ท่องเที่ยวราว 10% จะเป็นอีกบริษัทที่มองได้ประโยชน์ทางบวกมากที่สุด
ขณะที่มุมมอง บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ชูหุ้น AOT จะเด่นที่สุดในกลุ่มท่องเที่ยว โดยมองว่าหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง หลังกรุงเทพฯ จัดเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมา count-down มากที่สุดในโลก อีกทั้งช่วงปลายปีถึงต้นปี ถือว่าเป็นช่วงพีคของฤดูกาลท่องเที่ยวไทย
ดังนั้น จึงมองเป็นบวกต่อกลุ่มการบินอย่าง AOT, AAV, BA และ BAFS กลุ่มโรงแรมทั้ง AWC, ERW และ CENTEL แต่ยกให้ AOT เด่นสุด แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 76 บาทต่อหุ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของกำไรไตรมาส 1/2567 รวมถึงภาพรวมกำไรปี 2567 ที่คาดเติบโตราว 35%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- นายกฯ ตั้งเป้าหมายใหญ่ปี 67 ขยับรายได้ท่องเที่ยว เพิ่มเป็น 3.5 ล้านล้าน ทำไทยเป็นไฮซีซั่นทั้งปี
- เฮ!! นายกฯ บอกข่าวดี นักท่องเที่ยวไทยไปจีน ‘ฟรีวีซ่าถาวร’ เริ่ม 1 มี.ค.เป็นต้นไป
- ครม. ไฟเขียว ‘ฟรีวีซ่านักธุรกิจญี่ปุ่น’ อยู่ในไทย 30 วัน เริ่ม 1 ม.ค.67– 30 ธ.ค.69
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg