‘คังคุไบ’ ฟีเวอร์ เปิดความหมายจุดแดง บนหน้าผากหญิงอินเดีย เรียกว่า ติกะ หรือ บินดิ ใช้แต้มที่กลางหน้าผาก ระหว่างหัวคิ้ว เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงสถานะทางสังคมว่าหญิงผู้นี้ได้ผ่านพิธีการมงคลสมรสแล้ว
กำลังถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์อย่างหนัก เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่ควรค่าแก่การได้ดูเลยจริง ๆ สำหรับ คังคุไบ หญิงแกร่งแห่งมุมไบ หรือ Gangubai Kathiawadi หนังอินเดียที่เล่าเรื่องราวของ คงคา หญิงสาวที่ถูกแฟนหนุ่มหลอกให้ไปขายเป็นโสเภณี จนกลายมาเป็น คังคุไบ ราชินีมาเฟียผู้เรียกร้องสิทธิให้ Sex Worker เพราะอยากให้ทุกคนรู้ว่าทุกอาชีพต่างก็มีศักดิ์ศรีในตัวเอง
- ส่องค่าตัว ‘อาเลีย บาตต์’ นางเอก ‘คังคุไบ’ หนังเรื่องเดียว ฟาดเกือบ 100 ล้าน!
- ‘แทค-ตั๊ก’ คัฟเวอร์เป็น ‘คังคุไบ’ หญิงแกร่งแห่งมุมไบ ไม่เหมือนตรงไหนวงเลย!
- เปิดวาร์ป อาเลีย บาตต์ หรือ คังคุไบ หญิงแกร่งจาก Gangubai Kathiawadi
‘คังคุไบ’ ฟีเวอร์ เปิดความหมายจุดแดง บนหน้าผากหญิงอินเดีย
ซึ่งหากเราได้สังเกตในภาพยนตร์แล้วก็จะได้เห็นจุดแดงบนหน้าผากของหญิงอินเดีย ที่เราคงคุ้นเคยกันดี หลายคนคงสงสัยกันไม่น้อยว่าเหตุใด ทำไมหญิงอินเดียถึงต้องแต้มจุดแดงนี้ไว้ด้วย สำหรับ จุดแดงที่แต้มกลางหน้าผากเรียกว่า “ติกะ” (Tika) แต่ในบางครั้งอาจเรียกว่า “บินดิ” (Bindi) โดยจะใช้นิ้วป้ายขึ้นไปตามรอยแสกผม
บินดิ ตามธรรมเนียมฮินดูดั้งเดิมนั้นเป็นเครื่องหมายมงคล เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง เป็นศัพท์ที่มาจากภาษาสันสกฤตคำว่า Bindu ซึ่งแปลว่า “จุด” ซึ่งมักจะเป็นจุดสีแดง ทำมาจากผงสีแดง ใช้แต้มที่กลางหน้าผาก ระหว่างหัวคิ้ว เป็นตำแหน่งที่ตั้งของภูมิปัญญาที่แฝงเร้นอยู่ของคนเรา
โดยทั่วไปจุดสีแดงนี้จะทำจากมูลวัวที่นำมาเผาและบดจนละเอียดแล้วผสมกับสีแดงชาดที่ได้จากรากไม้ มูลวัวไม่ถือว่าเป็นของสกปรกเพราะวัวเป็นพาหนะของพระเจ้า และกินพืชเป็นอาหารผงสีนี้เรียกว่า “ผงวิภูติ” มีจำหน่ายตามร้านค้า ผงนี้อาจมีการนำไปทำพิธีก่อนนำมาใช้ก็ได้
แต่เดิมอินเดียตอนเหนือนั้นจะเป็นที่เข้าใจกันว่า “บินดิ” เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงสถานะทางสังคมว่าหญิงผู้นี้ได้ผ่านพิธีการมงคลสมรสแล้ว แต่ทางอินเดียใต้นั้น ผู้หญิงทุกคนไม่ว่าจะแต่งงานแล้วหรือยังไม่แต่งงาน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ จะแต้มบินดิทั้งหมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะแต่งงาน เจ้าบ่าวจะแต่งตัวไม่สมบูรณ์ถ้าขาดติลักษณ์ ติลักษณ์นี้จะถูกทำสัญลักษณ์บริเวณหน้าผากของเจ้าบ่าว ขณะอยู่ในพิธีแต่งงาน เพราะผู้นับถือฮินดูอย่างเคร่งครัดจะมีความเชื่อว่า จะไม่มีประเพณีใดหรือการบูชาใดที่สมบูรณ์ ถ้าขาด “ติลักษณ์” และ “ซินดูร์สีแดง” ถูกเลือกเพราะว่าเป็นสีที่นำมาซึ่งความโชคดี
เมื่อได้รับเจ้าสาวเข้ามาอยู่ในบ้าน บ้านนั้นจะมีแต่ความโชคดี เพราะเชื่อว่าบินดีที่อยู่ระหว่างคิ้วเจ้าสาวนั้นมีพลังแห่งศักติช่วยคุ้มครองครอบครัว ช่วยคุ้มครองผู้เป็นสามี
สตรีอินเดียถือสามีเสมือนเทพ จะให้ความรักความเคารพอย่างสูงการเจิมหน้าผากจะทำในวันแต่งงาน เมื่อคู่บ่าวสาวเดินรอบกองไฟแล้วพราหมณ์ผู้ประกอบพิธีวิวาห์ หรือผู้เป็นเจ้าบ่าวจะเจิมหน้าผากให้เจ้าสาวเป็นการประกาศว่าหญิงผู้นั้นเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามประเพณีสตรีชาวอินเดียจะต้องมีจุดนี้อยู่ตราบที่สามียังมีชีวิตอยู่ และจะต้องลบออกเมื่อสามีเสียชีวิต
ในกรณีที่เลิกร้างกัน สตรีผู้นั้นจะลบจุดออกได้ต่อเมื่อเป็นการเลิกร้างโดยคำสั่งของศาล หากสตรีผู้นั้นลบจุดบินดิออกโดยที่สามียังมีชีวิตอยู่ หรือไม่ได้เลิกกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จะถือว่าเป็นการกระทำสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ
เดิมทีนิยมจุดกลม คนที่ยังสาวจะนิยมจุดเล็กเพราะสวยงามกว่าแต่พออายุมากขึ้นอาจแต้มจุดให้ใหญ่ขึ้น ปัจจุบันมีรูปแบบจุดอื่น ๆ เช่น รูปคล้ายหยดน้ำ หรือเป็นวงกลมและมีรัศมีโดยรอบเหมือนดวงอาทิตย์ ปัจจุบันติกะพัฒนารูปแบบไปมากทั้งรูปทรงและสีสัน บางทีก็ทำเป็นสติกเกอร์เพื่อสะดวกใช้ มีข้อสังเกตว่า ในบางครั้งจุดติกะอาจไม่ใช่สัญลักษณ์ของสตรีที่แต่งงานเพียงอย่างเดียว ติกะถือว่าเป็นสิ่งมงคล ชาวอินเดียบางกลุ่มจะใช้ในโอกาสอื่น ๆ เช่นเวลาไหว้พระ พราหมณ์จะให้ผงวิภูติ ผู้รับจะนำมาเจิมเพื่อเป็นสิริมงคล แต่ก็เป็นการเจิมเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : kroobannok , board.postjung.com
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดเหตุผลที่ พิชญ์ กาไชย ตัดสินใจขายคอนโด 14 ล้าน ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้า
- เรื่องจริงไหม? มดดำ เดา เธอคนนี้รับไม้ต่อ ดูแล บิวกิ้น-พีพี หลัง นาดาว ปิดตัว
- ตอบแล้ว! สรุป ‘มดดำ’ ลงเล่นการเมืองไหม หลังคุณพ่อให้ลงสมัคร ส.ส. แทน