Entertainment

วิเคราะห์คดีแตงโม จุดจบอาจคล้าย 2 คดีดัง จตุรงค์ สุขเอียด ชี้หนทาง 5 คนบนเรือสู่อิสระภาพ

จตุรงค์ สุขเอียด วิเคราะห์คดีแตงโม จุดจบอาจคล้าย 2 คดีดัง คาดคนบนเรืออาจรอดคุก แต่อยู่อย่างทุกข์ตลอดไป ชี้หนทาง 5 คนบนเรือคืนสู่อิสระภาพ คือ ความจริงเท่านั้น

หลังเกิดโศกนาฏกรรม แตงโม ท่ามกลางการจับตาของสังคมว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะถึงแม้ว่ากลุ่มที่อยู่บนเรือทั้ง 5 คนในคืนเกิดเหตุ จะออกมาแถลงชี้แจงเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว แต่เรื่องนี้ยังมีอีกหลายปริศนาที่ชวนให้ค้างคาใจ ซึ่งขณะนี้ครบ 1 เดือนแล้ว ที่เกิดเหตุร้ายขึ้นกับดาราสาว แตงโม นิดา แต่คดีความยังคงไม่มีบทสรุปที่แน่ชัด

จตุรงค์ สุขเอียด วิเคราะห์คดีแตงโม จุดจบอาจคล้าย 2 คดีดัง ชี้หนทาง 5 คนบนเรือสู่อิสระภาพ

จตุรงค์ สุขเอียด วิเคราะห์คดีแตงโม จุดจบอาจคล้าย 2 คดีดัง ชี้หนทาง 5 คนบนเรือสู่อิสระภาพ

ล่าสุด (24 มี.ค.) ทางด้าน จตุรงค์ สุขเอียด ผู้สื่อข่าวช่อง 3 ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก จตุรงค์ สุขเอียด วิเคราะห์ถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า “วันนี้ครบ 30 วันที่แตงโมตกเรือจนเสียชีวิต แต่ตำรวจยังสรุปสำนวนคดีไม่ได้ ว่าจะตั้งข้อหาฆาตกรรมกับคนบนเรือสักคนได้หรือไม่

ที่ตั้งไปแล้ว คือ เจ้าของเรือ ขาดต่อทะเบียน กับขาดอายุประกัน ส่วนคนขับเรือ ฐาน ประมาท และไม่มีใบอนุญาต ที่เหลือ ยังเป็นผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์

มีคนถามผมว่า คดีแตงโม พอจะเทียบเคียงได้กับคดีไหนได้บ้าง เอาเร็ว ๆ 2 คดีที่คนร่วมรุ่นจำได้ คือ คดีเสือดำ และคดีบอส อยู่วิทยา เหตุที่ 2 คดีนี้ใกล้เคียง ก็เพราะผู้ก่อเหตุ รวย เหมือนกัน

ถ้าเทียบคดีแตงโม กับคดีเสือดำ

คือ จนท.พบเจ้าสัวกับพวกเข้าป่า มีเพียงกลุ่มนี้เท่านั้นที่รู้ว่าใครทำอะไร ใครยิงเสือ ใครต้ม กินเนื้อเสือดำ ถ้าหัวหน้าวิเชียร ไม่จับได้ คนพวกนี้คงลอยนวลไป แต่ภายหลังเจ้าสัวผิดเป็นเจ้าของปืน อ้างไม่ใช่คนยิง เพราะอีกคนมารับแทนว่าเป็นยิงเสือดำ ความผิดจึงออกมาแบบที่เราเห็น จึงทำนองเดียวกับเรือเจ้าของไม่ได้ขับตอนแตงโมตกเรือ ส่วนคนขับทำให้ตกเรือเป็นอุบัติเหตุหรือมีประเด็นอื่น จึงเป็นที่ติดใจอยู่ ถ้าคนบนเรือไม่ยอมบอกท่าสุดท้าย ตำแหน่งที่ตกได้สอดคล้องกับพยานแวดล้อม บาดแผลที่พบ สำนวนคงปิดยากครับ เพราะคนคงตามสาปแช่งตำรวจอีกคดีหนึ่ง

ส่วนที่มาใกล้กับคดีบอส คือ พฤติกรรมหลังเกิดเหตุ

คดีบอสซิ่งรถซุปเปอร์คาร์ ชนตำรวจตายแล้วหนีเข้าบ้าน ไม่ลงมาดู เพราะมีพิรุธ ในตัว คล้ายคดีนี้ คือ แทนที่จะลงไปช่วยให้รายละเอียดกลับหลบไปตั้งหลัก จนสร่างเมา สร่างสารบางชนิดหรือไม่ คดีบอส ต่อมา พบว่า มีกระบวนช่วยเหลือกันเป็นทีมใหญ่ใช้เงินหรือสัญญาให้ญาติ ตำรวจไม่อายัดตัวไว้ระหว่างสอบ เราพบเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานช่วย เปลี่ยนความเร็วรถ จากมากให้ช้าลง เปลี่ยนผลตรวจหาสารเสพติด เปลี่ยนวงจรปิด…เปลี่ยนสำนวน แก้คำให้การพยาน จนถึงการช่วยเหลือของอัยการบางคนจะตัดคดี ไม่ส่งฟ้องไปศาล ตำรวจ ต.ม.ไม่อายัดตัว จนไม่มีใครรู้ว่าผู้ต้องหาออกไปทัวร์ยุโปนานแล้ว คดีบอสจึงสร้างนักสืบโซเชียลขึ้นมาอีกคดี เพราะเขาไม่เชื่อถือตำรวจที่ทำคดีให้คนรวย ๆ ให้ยุติธรรมได้

ผ้าแตงโม1

จาก 2 ตัวอย่างนี้ แต่ถ้าถามต่อว่า คดีแตงโม จบแบบไหน ก็ขอบอก คนบนเรือทั้ง 5 ว่า ถ้าคดีนี้ตำรวจสรุปสั่งไม่ฟ้องคดีฆาตกรรมกับใครเลย แน่นอนคดีไม่ถูกส่งให้ศาลพิพากษาโทษ ทั้งที่คน ๆ หนึ่งต้องเสียชีวิตได้ด้วยความคลุมเครืออยู่เช่นนี้

แม้ไม่ต้องติดคุก แต่ท่านจะขาดอิสระภาพไปยาวนานไร้การพักโทษ ต้องไม่ลืมว่า มีคน 2 กลุ่มตัดสินโทษได้ คือ ผู้พิพากษา และสังคม (พิพากษา)​

ถ้าสังคมพิพากษา นั้น คุณจะไม่ได้รับการปลดปล่อยไปชั่วชีวิต คุณจะถูกสังคมตราหน้า ไปตลอด ทั้งลูก ๆ หลาน ๆ แม้ไม่ติดคุก แต่สายตาของคนที่เดินผ่านคุณไปแต่ละคู่จะกักขังคุณ ไม่ต่างจากลูกกรง การเดินอยู่ในสังคมที่พิพากษานั้นยาวนานกว่า การติดคุกแล้วออกมา มากมายนัก แต่การจะให้สังคมเข้าใจก็ทำได้ไม่ยาก เพียงใครสักคนใน 5 คนกล้า ออกมาตั้งโต๊ะ พูดแต่ความจริงทั้งหมดแบบไร้การปรุงแต่ง พูดสิ่งที่เกิดขึ้นจริง.. แก้คำพูดที่ไม่จริง บอกความจริงทั้งหมดบนเรือ ทั้งก่อนลงเรือ อยู่บนเรือ หลังเกิดเหตุ

แม้ความจริงใหม่จะทำให้คุณสักคนติดคุก แต่ผมเชื่อว่า คนที่ติดคุก (ถ้ามี) ​แต่วันที่ได้ออกมาคน ๆ นั้น จะเป็นคนแรก ที่ได้รับอิสระจากสังคม เพราะฉะนั้น ความจริงจึงเป็นเครื่องมือเดียวเท่านั้นที่สังคมต้องการและรอคอยจากคนทั้ง 5 และคือทางสู่อิสระภาพ”

14 จตุรงค์ สุขเอียด2
14 จตุรงค์ สุขเอียด1

 

ขอบคุณที่มา จตุรงค์ สุขเอียด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo