เชื่อได้หรือไม่? แตงโม นิดา เมาคนเดียว หลังพบปริมาณแอลกอฮอล์ 93 mg% เทียบดื่ม 12 แก้ว หมอพรทิพย์ ชี้ไม่แฟร์กับคนตาย เหตุเพื่อน 5 คน บนเรือไม่ถูกตรวจทันที
ความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา จากเหตุการณ์พลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นอุบัติเหตุล้วน ๆ หรือถูกกระทำ โดยก่อนหน้านี้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ซึ่งร่วมสังเกตการณ์การผ่าชันสูตรศพครั้งที่ 2 ของแตงโม เปิดเผยว่า แตงโมมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ตรวจพบในลูกตา 93 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ขณะที่เพื่อน 5 คน บนเรือไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ แล้วมาตรวจภายหลัง ซึ่งมองว่าไม่แฟร์กับคนตาย ทำไมไม่ตรวจทันที อีกทั้งมีการให้ข่าวว่าไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ ไม่เจอแก้วและขวดไวน์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพยานหลักฐานถูกทำลาย
- กระจ่างทันที!! หลัง ‘หมอพรทิพย์’ ตอบชัดปมโกนผมกลางรายการ ‘โหนกระแส’
- ทฤษฎีพลัดตกจากหัวเรือ ‘คดีแตงโม’ ชี้มีโอกาสมากที่สุด คาดแผลลึกก่อนตกน้ำ อาจโดนสิ่งนี้?
- ครอบครัว ทนายกฤษณะ เจอผลกระทบหนัก ลูกชวดทุนเรียนต่อ-เมียลาออกจากงาน ยันไม่โกรธแม่แตงโม
หมอพรทิพย์ ชี้ไม่แฟร์กับคนตาย ผลตรวจ แตงโม คาดดื่มหนัก 12 แก้ว แต่คนบนเรือไม่ถูกตรวจทันที
ล่าสุด (22 มี.ค.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกันว่า
“เชื่อได้หรือไม่ #แตงโมเมาคนเดียว ผลตรวจเลือด ปอ ,จ๊อบ , โรเบิร์ต ไม่พบแอลกอฮอล์และสารเสพติด
ผลตรวจเลือด แตงโม พบ แอลกอฮอล์ 93 mg% (เทียบดื่มเหล้า 11.16 แก้ว มีเหล้าแก้วละ 2 ฝา หรือ ดื่มไวน์ 150 cc/แก้ว แอลกอฮอล์ 12 mg% หรือดื่ม 7.75 แก้ว)
เรือสปีดโบ๊ตทั้งลำ 6 คน ขี้เมาคนเดียว จริงหรือไม่
ข้อมูล
Alcohol 50 mg% การมองเห็นลดลง ความสามารถควบคุมร่างกายช้าลง
Alcohol 90mg%-100mg% คลื่นไส้ อาเจียน เดินเซ พูดไม่รู้เรื่อง การตอบสนองตัดสินใจช้าลง
ถ้าขับรถทางบก ชนคนตาย ถ้ามีแอลกอฮอล์ เกิน 50 mg% ทำผู้อื่นเสียชีวิต ปรับ 60,000-200,000 บาท จำคุก 3-10 ปี”
- ระงับออกอากาศแล้ว เทป ‘แอนนา-ฮิปโป’ ออกรายการลี้ลับ เชิญดวงวิญญาณ ‘แตงโม’
- ‘แซม ยุรนันท์’ กลั้นน้ำตาไม่อยู่ หลังเจอพิธีกรถามถึง ‘แตงโม นิดา’ กลางรายการ
- ซึ้งใจแฟนคลับ เคยอุดหนุน ‘แตงโม นิดา’ ขายเสื้อมือ 2 อึ้งราคาไม่แพง ขอเก็บไว้ตลอดไป
ทั้งนี้ จากการสังเกตที่ร่าง แตงโม ทางด้าน หมอพรทิพย์ ยังกล่าวอีกว่า หมอรู้ว่ามันมีอะไรบางอย่างไม่ยอมไปด้วยกัน หลักสากลต้องบูรณาการร่วมกัน ประกอบด้วย
สัญญาณครั้งที่ 1 เหมือนมีการแทรกแซง โดยการที่คนบนเรือหายไปแล้วไปรวมตัวกันกลับมาให้ข้อมูล
สัญญาณครั้งที่ 2 เรือไม่เป็นวัตถุพยาน คนก็ไม่เป็นหลักฐานโดยอ้างว่าเขายังไม่เป็นผู้ต้องหา มันแปลก
สัญญาณครั้งที่ 3 สั่งย้ายศพ เดิมจะส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม แต่กลับเปลี่ยนสถานที่ไปชันสูตรที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ทำให้สังคมไม่วางใจว่าแตงโม จะได้รับความยุติธรรมหรือไม่
“คดีนี้เรื่องศพไม่น่าใช่ปัญหา ปัญหาใหญ่อยู่ที่การรวบรวมพยานหลักฐาน ตัวคดีไม่ยากเพราะที่เกิดเหตุมันบังคับ มันคือเรือและคนทั้ง 5 บวกผู้ตาย ศพไม่สามารถตอบได้หมด คดีนี้มีการปล่อยให้เรือหลุดออกจากห่วงโซ่วัตถุพยาน ทำให้ไม่ได้เก็บพยานหลักฐานคนบนเรือโดยทันที มาเก็บภายหลังแล้วมาใช้ในคดีไม่ได้ มันมีอะไรไม่ตรงตั้งแต่เริ่มต้น”
หมอพรทิพย์ ยังระบุอีกว่า การผ่าชันสูตรศพแตงโม รอบสอง ตนเข้าไปสังเกตการณ์เป็นที่ปรึกษา มีข้อมูลครบแต่ขอไม่บอก เป็นหน้าที่ที่เราจะทำงานต่อ คนที่จะตอบได้คือหมอที่ทำการชันสูตรครั้งแรกกับครั้งที่สอง เรามีกระบวนการไม่อยากให้สังคมสับสน “ไม่มีอะไรฝืนความจริง เชื่อว่าความจริงจะปรากฎทั้งหมด”
“คดีแตงโม เป็นเหมือนยอดเขาน้ำแข็ง ของหุบเขาของปัญหากระบวนการยุติธรรม หลายคนกำลังสนใจเพียงแค่ว่าความจริงคืออะไร ช่วยกันสืบ ขนาดคดีแตงโม ยังเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นประชาชนที่ไม่มีที่มาที่ไปคงยากมากที่จะทำให้เกิดความยุติธรรมขึ้น เพราะฉะนั้นภาพที่เห็นคือภาพใหญ่ของกระบวนการยุติธรรม ที่ว่าด้วยเรื่องการพิสูจน์ศพ การเก็บพยานหลักฐาน ที่สำคัญที่สุดคือสิทธิที่จะรับรู้ และเรื่องกระบวนการสอบสวน”
ขอบคุณที่มา เรื่องเล่าเช้านี้ , เฟซบุ๊ก มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- คลิปใหม่ แตงโม นั่งโดดเดี่ยวบนสปีดโบ๊ต พยานยันนั่งฉี่ไม่ได้ เห็นชัดท้ายเรือเป็นแบบนี้?
- เตเต้ โทรขอ อั้ม เล่าปมกระติก เพิ่งสารภาพ พิ้งกี้ ปมเงินมัดจำ 1 แสน โอนให้แตงโม
- เปิดผลตรวจมือถือแก๊งสปีดโบ๊ท คาดเหตุไม่พบคราบปัสสาวะ แฉพิรุธทนายดังถ่วง ‘คดีแตงโม’