ย้อนคำสัญญา เพลง กวิตา – อดีตสามี ในวันวิวาห์ ก่อนหย่าขาด เริ่มต้นใหม่กับ กวาง AB Normal

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 2 กุมภาพันธ์ 2567

ย้อนคำสัญญา เพลง กวิตา – อดีตสามี ในวันวิวาห์ ก่อนหย่าขาด หลังใช้ชีวิตคู่ 5 ปี เริ่มต้นใหม่กับ กวาง AB Normal

ทำเอาแฟน ๆ เซอร์ไพรส์ไม่น้อย หลังจากที่ กวาง AB Normal เปิดโหมดหวานต้อนรับเดือนแห่งความรัก ด้วยการอวดรูปคู่ เพลง กวิตา หรือ เพลง ภตภร อดีตนางเอกช่อง 7 ลูกสาวนักแสดงมากฝีมือ อ้อย กาญจนา จินดาวัฒน์ ท่ามกลางความสงสัยของชาวเน็ตว่า เพลง หย่าสามีตั้งแต่ตอนไหน เพราะจำได้ว่าเธอแต่งงานแล้วเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา

ซึ่งแฟนหนุ่มนอกวงการของ สาวเพลง เป็นผู้บริหารสายการบินดัง และคบหาดูใจกันนานถึง 16 ปี ก่อนที่ฝ่ายชายจะทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงาน กระทั่งใช้ชีวิตสามีภรรยาร่วมกัน 5 ปี เพลงจับได้ว่าฝ่ายชายมีผู้หญิงอื่น จึงเป็นฝ่ายขอยุติความสัมพันธ์กับสามี และตัดสินใจหย่าขาดในปี 2566 รวมทั้งยื่นฟ้องบุคคลที่ 3 โดยคดีอยู่ในขั้นตอนตามกฎหมาย

ย้อนคำสัมภาษณ์ของ เพลง กับ อดีตสามี ในฉลองมงคลสมรสของทั้งคู่ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2561 ในวันนั้น เพลง เปิดใจว่า “ตลอด 16 ปีที่คบกันมีหลายอย่างที่ประทับใจในตัวเขา แต่คิดว่าที่ยังคงสามารถคบกันจนมาถึงวันนี้ได้ก็ไม่ได้ง่าย เราผ่านอะไรมาทั้งดีและไม่ดีเป็นธรรมดา สิ่งที่ทำให้มีวันนี้ได้คิดว่าน่าจะเป็นความสม่ำเสมอของเขาที่เขามีให้ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงทุกวันนี้ ให้เกียรติในทุก ๆ เรื่อง ยอมทุกอย่างก็ว่าได้ เข้าใจในความเป็นตัวเราที่บางทีเราไม่ได้เป็นคนน่ารักตลอดเวลา รวมถึงให้เกียรติครอบครัวเราด้วย ทำให้ยังคบกันมาได้นาน จริง ๆ มีช่วงเวลาที่ต้องอยู่ต่างประเทศนาน พอเขากลับมาเพลงก็ต้องไป ก็ต้องอาศัยความมั่นคงที่ทำให้ยังคบกันมาได้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ จากเพื่อนมาเป็นแฟน จนวันนี้เป็นสามีภรรยา ยอมรับว่าตอนนี้ไม่ชินมากกับคำว่าสามี เพราะยังใหม่สำหรับเพลง ถามว่าเปลี่ยนไปยังไงบ้าง จริง ๆ มันเพิ่งเริ่มต้น ยังไม่รู้สึกว่ามีอะไรเปลี่ยนไป จริง ๆ ที่คบกันมาเหมือนลักษณะเป็นเพื่อนกันมากกว่า แต่หลังจากนี้คิดว่าคงมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันมากกว่า เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยต้องอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมงค่ะ”

ด้านฝ่ายชายเผยว่า “สำหรับผม มันไม่ได้เป็นคำมั่นสัญญาแค่พูด การที่อยู่ด้วยกันทุกวัน ตอนผมขอเพลงแต่งงาน ผมบอกเขาชัดเจนว่าจะรักเขาตลอดไป จะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะดูแลได้ จะพยายามเข้าใจเพลงเยอะ ๆ แน่นอนว่ารู้จักกันมา 16 ปี เรื่องนิสัยใจคอหรือความเข้าใจเรามีอยู่เต็มเปี่ยมอยู่แล้ว แต่ต่อไปนี้เราต้องอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง จะเป็นการใส่ใจทุก ๆ รายละเอียดมากกว่า เราพยายามจะคิดเยอะขึ้น เป็นห่วงเขามากขึ้น”

ก่อนที่ เพลง จะพูดเสริมขึ้นมาว่า “เพลงคิดว่าเรื่องคำมั่นสัญญาไม่สำคัญเท่าสิ่งที่เราเห็นทุกวันว่าเขาทำอะไรให้เรา ความตั้งใจที่เขาอยากเป็นคนที่ดีของเรา ดูแลเรา ครอบครัวเรา ตรงนั้นสำคัญกว่าสิ่งที่เขาจะพูดว่าสัญญาอะไร ก่อนตัดสินใจแต่งงาน เราคิดดีแล้วว่าเราเห็นในวันนี้ที่เขาพยายามที่เป็นคนที่ดีกว่าเดิมเพื่อก้าวเข้ามาในชีวิตเรา ตรงนั้นสำคัญมาก ๆ เพลงขอบคุณที่เขาตั้งใจและสัญญาว่าจะดูแลเราและครอบครัวให้ดี เพลงดูที่ตัวเขา เราเชื่อว่าเขาทำได้ ต่อให้ไม่ต้องพูดว่าสัญญา ส่วนเพลงก็ได้บอกไว้แล้วว่าเราจะมีความพยายาม อดทน ตั้งใจที่จะทำให้ครอบครัวของเรามันเป็นไปได้อย่างดีและราบรื่นตลอดไป”

ส่วนแพลนเรื่องทายาท ฝ่ายชายเปิดใจว่า “เราคุยกันมาสักพักแล้ว คือเพลงเป็นคนรักเด็ก แต่ถ้าจะมีเองต้องใช้เวลา เพราะผมกับเพลงมีอะไรหลายอย่างที่อยากทำด้วยกัน อย่างเช่นไปเที่ยวกันเยอะ ๆ ถ้าเราจะสร้างเขาขึ้นมา เราก็อยากดูแลเขาให้ดีที่สุดเหมือนที่คุณพ่อคุณแม่ของเพลงและผมดูแล ก็คงรอดูไปก่อน ตอนนี้ยังไม่มีแพลนครับ ตัดประเด็นเรื่องท้องก่อนแต่งไปได้เลยครับ”

ด้าน เพลง เผยต่อว่า “และเกี่ยวกับเรื่องงานด้วยค่ะ งานของเขากำลังไปได้ดี ของเพลงก็มีอีกหลายอย่างที่อยากทำ อาจจะทำได้ไม่เต็มที่ถ้ามีทายาทในตอนนี้ ขอดูเรื่องงานก่อน”

ส่วนเรื่องสินสอด 9 ล้าน ฝ่ายชายบอก “เรื่องจำนวนเราไม่อยากพูดถึง สำหรับผม ตัวเลขไม่ได้เป็นตัวบอกถึงมูลค่าของเพลง ผมเลยไม่อยากให้เป็นประเด็น สำหรับผมคืออยากแต่งงานกับเพลง ไม่ว่าจะทำยังไงก็ตาม ทางคุณพ่อคุณแม่เพลงก็น่ารักมาก เป็นไปตามความเหมาะสมปกติทั่วไป พ่อแม่ผมก็เต็มที่ อยากได้ลูกสะใภ้คนนี้ รักเพลงเหมือนเป็นลูกสาวมานานแล้ว”

ขณะที่ แม้อ้อย เปิดใจว่า “เรื่องสินสอดไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราจะยกลูกสาวให้ใคร ครอบครัวเรามองว่าคนที่จะมาดูแลเพลงเขาจะดูแลลูกเราได้ตลอดไปอย่างดีที่สุดหรือเปล่า และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่เขาน่ารักและดีขนาดนี้ ไม่ต้องอะไรทั้งสิ้น ใส่พานให้เลยค่ะ (หัวเราะ) เพลงโชคดีที่มีพ่อแม่สามีดีมาก เป็นครอบครัวที่ดีมาก ทำให้รู้สึกว่าเรื่องสินสอดไม่เคยเอามาเป็นสิ่งที่กำหนดใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ”

พร้อมกับให้ข้อคิดถึงลูกสาวและลูกเขยว่า “คนเราถ้าใช้ชีวิตร่วมกันแล้วย่อมต้องมีพื้นที่ส่วนตัวบ้าง การจะเอาชนะอะไรกันมันไม่ใช่สิ่งที่แบบใครแพ้หรือชนะ การยอมก็ไม่ใช่การแพ้ เรายอมเพราะว่าความรักมากกว่า อย่างนึงที่ตัวเองทำมาคือเวลามีเรื่องทะเลาะกับสามีจะไม่เก็บข้ามคืน ต้องเคลียร์ให้จบ ถ้าไม่จบก็ไม่ให้เกิน 3 วัน ต้องคุยกันด้วยเหตุและผล ถ้าเรามีความซื่อสัตย์ เรามีความจริงต่อกัน ก็ไม่ต้องพูดกันมาก ต้องมีความเชื่อใจ จริงใจ ซื่อสัตย์ และมีความรักที่เข้าใจกัน ไว้วางใจกันค่ะ”

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/

Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight

Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight

Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/

Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg