‘รักษ์โลก’!! ‘SENA’ ต่อยอดนวัตกรรม ชู ‘บ้านพลังงานเป็นศูนย์-คอนโด Low Carbon’ รับกระแสโลกเดือด

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 16 ตุลาคม 2566

“SENA” ต่อยอดกระแสรักษ์โลกสู่ความยั่งยืน พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในแบบ”รักษ์โลก” ในรูปแบบ “บ้านพลังงานเป็นศูนย์ และคอนโด Low Carbon” ช่วยประหยัดค่าไฟ ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่นพัฒนาโครงการต่อเนื่อง นำร่องธุรกิจใหม่บริการด้านการเงิน ปล่อยสินเชื่อให้ผู้กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน

ไม่น่าผิดหากจะพูดว่า “เสนาดีเวลลอปเม้นท์” คือผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ (Zero Energy Housing – ZEH) และคอนโดพลังงานสะอาด หรือ คอนโด Low Carbon รายแรกของไทย ที่นำเทคโนโลยีมาผสานกับพลังงานสะอาด ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า บอกเลยบ้านและคอนโดทุกโครงการของ SENA สอดรับกระแสรักษ์โลก

The Bangkok Insight มีโอกาสได้พูดคุยกับ ดร.ยุ้ย – ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ถึงแนวคิดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ และ คอนโด Low Carbon

ผศ.ดร.เกษรา บอกว่า SENA ได้ต่อยอดการพัฒนาบ้านที่อยู่อาศัยจากการเป็นผู้นำรายแรก ๆ ของไทย ในการพัฒนาหมู่บ้านและคอนโด ติดโซลาร์เซลล์ทุกโครงการ โดยนำหลักคิดจาก บริษัท ฮันคิว ฮันชิน คอร์ปอเรชั่น พันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นในการร่วมกันพัฒนานวัตกรรม มาสู่บ้านแนวคิดพลังงานเป็นศูนย์ และคอนโด Low-Carbon เพื่อตอบโจทย์การลดการใช้ไฟฟ้าจากรัฐให้น้อยที่สุด แต่ยังคงใช้ชีวิตได้ปกติ ไม่ตกเทรนด์ สอดรับกับทิศทางของประเทศที่มีเป้าหมาย มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Society) ปีค.ศ. 2065

เรื่องรักษ์โลกไม่ใช่แฟชั่น และเชื่อว่าตอนนี้ผู้บริโภคยุคใหม่ ให้ความสนในกระแสรักษ์โลก ทำให้เราต้องก้าวไปอีก Step หนึ่งไม่ใช่แค่ติดโซลาร์

ผศ.ดร.เกษรา บอกชัดเจนเรื่องรักษ์โลกไม่ใช่แฟชั่น และเชื่อว่าตอนนี้ผู้บริโภคยุคใหม่ ให้ความสนในกระแสรักษ์โลก ทำให้เราต้องก้าวไปอีก Step หนึ่งไม่ใช่แค่ติดโซลาร์ เพราะที่อยู่อาศัยเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตคาร์บอนตลอด 24 ชั่วโมง การพัฒนาบ้านจึงต้องมองอนาคตที่จะต้องตอบโจทย์เป้าหมายประเทศ

ขณะนี้รัฐบาล ก็ได้มีการร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ระยะต่อไปจะเป็นภาคบังคับให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งการออกใบอนุญาตให้กับโรงงาน ที่อยู่อาศัย ที่ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยที่ญี่ปุ่นได้บังคับให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทุกรายทำบ้านรักษ์โลก หากไม่ทำจะมีบทลงโทษ แต่หากผู้ประกอบการรายใดทำได้ตามเงื่อนไข จะมีงบประมาณสนับสนุนให้

ทั้งนี้ SENA ได้ร่วมมือกับศูนย์บริการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chula Unisearch) ทำการศึกษาและวิจัยร่วมกันในการสร้างแบบบ้านจำลองบ้าน (Simulation) ทำการออกแบบบ้าน ศึกษาพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของคนไทย เพื่อคำนวณหาค่าไฟฟ้าจากรูปแบบบ้านที่แตกต่างกัน ผลจากการวิจัยได้ข้อสรุปว่า บ้านแนวคิดพลังเป็นศูนย์ สามารถประหยัดพลังงานได้สูงสุด 38% โดยที่ลูกบ้านยังคงชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้นทิศทางการพัฒนาของ SENA ระยะต่อไปจะร่วมกับ บริษัท ฮันคิว ฮันชิน คอร์ปอเรชั่น จากประเทศญี่ปุ่น มุ่งเน้นพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจรทุกโครงการ

โดยการนำนวัตกรรมการใช้วัสดุ อุปกรณ์ผนวก กับการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าใกล้การมีที่อยู่อาศัยแนวคิดบ้านพลังเป็นศูนย์ และคอนโด Low-Carbon ได้มากยิ่งขึ้น ต้องยอมรับว่าตอนนี้ ผู้บริโภคยังไม่รู้ว่าแนวคิดดังกล่าวคืออะไร เพราะไม่มีประสบการณ์ Before และ After เพราะไม่เคยอยู่บ้านประเภทนี้มาก่อนแต่ทาง SENA ได้สร้างให้หมดแล้วภายใต้หลักการ

1. Active Design คือ การออกแบบอาคารให้มีความยั่งยืนด้านการใช้พลังงาน โดยการนำเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ทันสมัยเข้ามาช่วยในการออกแบบ เช่น เซนเซอร์ควบคุมระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง, การใช้แอร์ประหยัดพลังงานฯ

2. Passive design การออกแบบอาคารให้มีความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม เช่น ทิศทางลม และแสงแดด เป็นต้น

3. การมีระบบผลิตพลังงานใช้เองจากพลังงานหมุนเวียนด้วยการนำพลังงานจากแสงอาทิตย์ (Solar Cell) มาสร้างเป็นพลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในบ้านให้สอดคล้องกับสภาพอากาศของเมืองไทย และการอยู่อาศัยภายในบ้าน ที่สามารถควบคุมอุณหภูมิภายในบ้านให้เหมาะสมแต่ละฤดูกาล ผสมผสานการใช้พลังงาน ที่ใช้ได้เองอย่างมีประสิทธิผล โดยได้พัฒนาโครงการและเปิดขายไปแล้ว 2 โครงการ คือ โครงการบ้านเดี่ยว กม.29, เสนา วิลล์ วงแหวน-บางบัวทอง และจะเปิดอีก 3 โครงในช่วงปลายปี ประกอบด้วย โครงการ Niche Mono Bangpo โครงการ Flexi Riverview Charoennakorn และโครงการ Niche Pride- Somde

ส่วนของคอนโด Low-Carbon เป็นการออกแบบที่อาศัยแนวคิดเรื่องสมาร์ทซิตี้ มาประยุกต์ใช้กับปรับใช้กับฟีเจอร์ต่างๆ เริ่มตั้งแต่การการออกแบบบ้านพลังงานเป็นศูนย์ประกอบด้วย Smart Energy, Smart

Mobility, Smart Living, Smart Environment และ Smart People เพื่อให้เป็นชุมชนเมืองน่าอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี ประหยัดรายจ่าย มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ที่สำคัญยังมีระบบการให้บริการที่มีความสะดวกสบายใกล้แหล่งงาน โดยใช้แอปพลิเคชั่นบนมือถือ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางอย่างชาญฉลาดด้วยการใช้เทคโนโลยี วางแผนการเดินทาง ที่สามารถช่วยในการลดมลภาวะ ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์

ผศ.ดร.เกษรา ย้ำว่าหากจะพูดง่ายๆ เพื่อสร้างความเข้าใจ “เราจะบอกว่า SENA ทำบ้านรุ่นใหม่ ที่คุณอยู่แล้วใช้พลังงานน้อยมาก พลังงานที่คุณใช้เข้าใกล้ศูนย์ ก็เปรียบเหมือนกับการซื้อไฟจากหลวงน้อยมาก เปรียบเหมือนกับคุณอยู่บ้านทั่วไป ต้องจ่ายค่าไฟเดือนละ 4,000 บาท แต่อยู่ที่นี่จ่ายค่าไฟเดือนละ 1,500 บาท ตลอดระยะเวลา 20 ปี”

สำหรับสถานการณ์อสังหาฯ ผศ.ดร.เกษรา บอกว่าปัจจุบันยังคงมีปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในและนอกประเทศ ไม่ว่าจะการปรับขึ้นของค่าก่อสร้าง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ความสามารถในการซื้อบ้านของผู้บริโภคลดลง ทำให้ SENA ต้องปรับตัวด้วยการกระจายความเสี่ยงไปสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงช่วยให้ผู้บริโภคเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น อาทิ ธุรกิจด้านการเงินที่ให้บริการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้า ที่ไม่ผ่านการอนุมัติจากธนาคารพาณิชย์

ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการ 400-500 ราย รวมถึงกลุ่มธุรกิจเช่าซื้อที่อยู่อาศัย โดยเปลี่ยนฟอร์มจากคนซื้อบ้านมาเป็นผู้เช่าอยู่อาศัย เมื่อมีความพร้อมก็สามารถซื้อบ้านได้ทันที โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคอนโดมิเนียม คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

“การขยายพอร์ตธุรกิจของ SENA มองว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับ SENA ในอนาคต และตลาดอสังหาฯ ภาพรวมคงต้องรอดูการดำเนินนโยบายจากรัฐบาลที่กำลังเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม