World News

ทรัมป์ ลั่น ส่งทหารเข้าจัดการ หากประท้วง ‘จอร์จ ฟลอยด์’ ยังรุนแรง

ทรัมป์ ประกาศใช้กำลังทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ในประเทศให้กลับคืนสู่ความเรียบร้อยอีกครั้ง หากการประท้วงอย่างรุนแรงที่กระจายไปทั่วประเทศยังไม่ยุติลง

ทรัมป์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงวานนี้ (1 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น เรียกการกระทำของกลุ่มผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรงว่า “การก่อการร้ายในท้องถิ่น” และว่าต้องนำกฎหมายมาบังคับใช้เพื่อให้เกิดความสงบ

“หากเมือง หรือรัฐใดปฏิเสธที่จะใช้มาตรการที่จำเป็น เพื่อปกป้องชีวิต และทรัพย์สินของชาวเมือง ผมก็จะส่งกองทัพสหรัฐเข้าไป และแก้ปัญหาให้กับพวกเขาอย่างรวดเร็ว”

พร้อมกันนี้ ทรัมป์ยังประกาศตัวเองว่า เป็นพันธมิตรกับกลุ่มผู้ประท้วงอย่างสันติทุกคน

อย่างไรก็ดี รายงานข่าวระบุว่า ในขณะที่ทรัมป์กำลังแถลงข่าวอยู่ภายในทำเนียบขาวนั้น บรรดาผู้ชุมนุมอย่างสันติ ด้านหน้าประตูทางเข้าทำเข้า ทำเนียบขาว กลับถูกตำรวจใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา และระเบิดแสง เข้าสลายการชุมนุมอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นไม่นานนัก ผู้นำสหรัฐก็ได้เดินตัดสวนมายังโบสถ์เซนต์ จอห์ย เอปิสโคปาล ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ประธานาธิบดีสหรัฐใช้ปฏิบัติภารกิจทางศาสนามานานกว่า 100 ปี ซึ่งในขณะนี้ได้รับความเสียหายบางส่วน จากเหตุประท้วงช่วงค่ำวันอาทิตย์ (31 พ.ค.)

ทั้งนี้ ทั่วทั้งสหรัฐกำลังเผชิญกับการประท้วงต่อต้านตำรวจ ที่มักจะเริ่มต้นอย่างสันติ ก่อนลงเอยด้วยความรุนแรงในช่วงค่ำ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ “จอร์จ ฟลอยด์” ชาวแอฟริกัน-อเมริกันวัย 46 ปี ที่เสียชีวิตระหว่างที่ถูกตำรวจควบคุมตัว และโดนกดหน้าคว่ำลงกับพื้น โดยมีตำรวจใช้หัวเข่ากดที่ด้านหลังคอของเขานานเกือบ 9 นาที

ผลชันสูตรศพครั้งที่ 2 ตามคำร้องขอของครอบครัวฟลอยด์ และเปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้ บ่งชี้ว่า การเสียชีวิตของเขาถือว่ามีสาเหตุมาจากการฆาตกรรม เพราะเขาหายใขไม่ออก เนื่องจากมีการใช้แรงกายเข้าไปขัดขวางทางเดินหายใจ ทำให้ไม่สามารถรับอ็อกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้ และบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่ 3 นาย มีส่วนเกี่ยวข้องในการเสียชีวิตครั้งนี้

ก่อนหน้านี้ มีรายงานด้วยว่า หน่วยอารักขาได้นำตัวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้าไปยังหลุมหลบภัยภายในทำเนียบขาวเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา(29 พ.ค.) หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนได้รวมตัวกันที่บริเวณด้านนอกอาคารที่พักของฝ่ายบริหาร โดยผู้ประท้วงบางคนได้ขว้างปาก้อนหิน และพยายามทำลายแผงกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

แหล่งข่าวระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ใช้เวลาอยู่ในหลุมหลบภัยเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง ซึ่งหลุมหลบภัยในทำเนียบขาวได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น การโจมตีจากผู้ก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม การที่หน่วยอารักขาตัดสินใจนำตัวประธานาธิบดีทรัมป์เข้าไปยังหลุมหลบภัยนั้น สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ตึงเครียดภายในทำเนียบขาว เนื่องจากเสียงตะโกนของผู้ที่กำลังชุมนุมอยู่ที่สวนสาธารณะลาฟาแยตนั้น สามารถได้ยินเข้าไปถึงทำเนียบขาวตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่หน่วยอารักขาและเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายก็พยายามควบคุมการประท้วงไม่ให้บานปลาย

Avatar photo