World News

ผลวิจัยชี้โควิด-19 ‘ระบาดเงียบ’ ในสหรัฐ เร็วกว่าที่คนอเมริกันรับรู้

ผลวิจัยเผยโควิด-19 “ระบาดเงียบ ในสหรัฐ เร็วกว่าที่คนอเมริกันรับรู้ โดยแบบจำลองชี้ 5 เมืองใหญ่อาจมีการติดเชื้อ 2.8 หมื่นรายเมื่อนับถึงวันที่ 1 มี.ค.

ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอร์ธอีสเทิร์น ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐระบุว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อาจแพร่ระบาดอยู่ในหลายเมืองของสหรัฐ เร็วกว่าที่ชาวอเมริกันรับรู้อย่างมาก

เดอะนิวยอร์กไทม์ส รายงานอ้างการวิจัยชื่อ “Hidden Outbreaks Spread Through U.S. Cities Far Earlier Than Americans Knew, Estimates Say” ว่าตอนนครนิวยอร์กยืนยันผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายแรกเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2563 นั้น “มีการติดเชื้ออย่างเงียบๆ หลายพันรายทั่วเมือง”

แบบจำลองของคณะนักวิจัยมหาวิทยาลัยฯ ชี้ว่า การระบาดเงียบยัง “แพร่กระจายโดยแทบไม่สามารถตรวจจับได้เลย” ในบอสตัน ซานฟรานซิสโก ชิคาโก และซีแอตเติล ซึ่ง “เป็นเวลานานก่อนผลการทดสอบแสดงว่าแต่ละเมืองได้เผชิญปัญหาใหญ่แล้ว”

“แม้แต่ตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ขณะโลกจับตามองจีน ไวรัสฯ มิเพียงแพร่กระจายในหลายเมือง แต่ยังเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งการติดเชื้อในที่อื่นๆ ของสหรัฐด้วย” โดยแบบจำลองชี้ว่า อาจมีการติดเชื้อใน 5 เมืองใหญ่ข้างต้นราว 28,000 ราย เมื่อนับถึงวันที่ 1 มีนาคม

ทั้งนี้ เมื่อ 21 เมษายน 2563 หน่วยงานสาธารณสุขเทศมณฑลแซนตาคลารา รัฐแคลิฟอร์เนีย ยืนยันกรณีผู้ป่วย 2 ราย เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ในวันที่ 6 และ 17 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเร็วกว่าการรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตรายแรกอย่างเป็นทางการในสหรัฐอย่างน้อย 3 สัปดาห์

ที่มาสำนักข่าวซินหัว

Avatar photo