“องค์การอนามัยโลก (WHO)” เปิดแถลงข่าวที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศให้การแพร่ระบาดของ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธาณสุขระดับนานาชาติ เนื่องจากเชื้อไวรัสยังคงแพร่ระบาดจากประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง
“เหตุผลหลักสำหรับการประกาศครั้งนี้ เพราะการแพร่ระบาดไม่ได้จำกัดอยู่ในประเทศจีนเท่านั้น แต่มันเกิดขึ้นในอีกหลายประเทศ” ดร.เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าว
ประเด็นที่น่ากังวลก็คือ ไวรัสไวโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดไปในหลายประเทศที่มีระบบสาธารณสุขอ่อนแอและไม่ได้เตรียมตัวรับมืออย่างเพียงพอ โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตในประเทศจีนพุ่งไปถึง 230 คน ขณะเดียวกันมีผู้ติดเชื้อรวม 98 รายในอีก 18 ประเทศ แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตนอกประเทศจีน
ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เคยเดินทางไปที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งเป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อโรค นอกจากนี้พบผู้ป่วย 8 รายที่มีการติดต่อระหว่างคนสู่คน ในประเทศเยอรมัน ญี่ปุ่น เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา
การที่ WHO ตัดสินใจประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าว จะส่งผลให้ WHO สามารถสนับสนุนประเทศที่มีรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ ในการป้องกันการแพร่ระบาดและเตรียมรับมือกรณีที่พบผู้ป่วย รวมถึงทำให้ทั่วโลกหันมาสนใจและให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ดร.เทดรอส ยกย่องทางการจีนที่ใช้มาตรการพิเศษในการป้องกันการแพร่ระบาด พร้อมยืนยันว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นการแสดงความไม่มั่นใจต่อทางการจีน ขณะเดียวกันก็ไม่มีเหตุผลที่จะจำกัดการค้าขายหรือการเดินทางไปยังประเทศจีนด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา WHO เคยประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคต่อไปนี้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลกมาแล้ว ได้แก่ ไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ปี 2552, โรคโปลิโอ และไวรัสอีโบลาในตะวันออกของแอฟริกา ปี 2557, ไวรัสซิกา ปี 2559 และไวรัสอีโบลาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ปี 2562
- ‘อิเกีย’ ปิดสาขาจีน ตามรอย ‘สตาร์บัคส์-แมคโดนัลด์-แอปเปิล’ หนี ‘โคโรนา’
- โคโรน่า-ฝุ่นPM2.5ไม่มีผล! ต่างชาติทยอยเข้าไทยเตรียมลุยศึกเสือภูเขาเอเชีย
- ‘เสี่ยหนู’ เสนอคนจีนเข้าไทยต้องมีใบรับรองแพทย์ สกัดไวรัสโคโรนา
- คาด ‘ไวรัสโคโรนา’ ในจีน ยังระบาดต่อ 6-9 เดือน กว่าจะถึงจุดพีค ไทยวางมาตรการสูงสุดรับมือ