Wellness

คาด ‘ไวรัสโคโรนา’ ในจีน ยังระบาดต่อ 6-9 เดือน กว่าจะถึงจุดพีค ไทยวางมาตรการสูงสุดรับมือ

“สาธารณสุข” ย้ำมี “สติ” รับข้อมูลข่าวสาร แต่ไม่ประมาท คาดในจีนการระบาดเพิ่งเริ่ม กินเวลาอีก 6-9 เดือนถึงจุดพีค เหตุมาตรการควบคุมเฉพาะผู้ป่วยรุนแรง ไม่ครอบคลุมการระบาดในเมืองอื่นๆ เผยรายงานมีผู้ป่วยอาการไม่หนักหลักแสนคน ไทยเตรียมมาตรการขั้นสูงรองรับล่วงหน้า

830084วันนี้ (30 ม.ค.)ที่กระทรวงสาธารณสุข เป็นวันแรกที่กำหนดให้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนวันละ 2 รอบ ถึงความคืบหน้าโรคไวรัสโคโรนา เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดของสาธารณะจากข่าวปลอมที่กำลังระบาดคู่กับไวรัส

นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวยืนยันตัวเลขล่าสุด ณ วันนี้ว่า มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวน ต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 202 ราย คัดกรองจากสนามบิน 31 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 171 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 67 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 135 ราย และมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ 44 ราย

สำหรับสถานการณ์แพร่ระบาด ยังขยายไปหลายประทศ เราจึงต้องระวังเพิ่มเติม สิ่งสำคัญต้องใส่หน้ากากอนามัย เป็นกระดาษหรือผ้าก็ได้ ทำเองก็ได้ สามารถซักนำมาใส่ใหม่ สามารถป้องกันการติดต่อทางเดินหายใจ หากประชาชนท่านใดไอจาม น้ำมูกไหล ขอให้พักผ่อนอยู่บ้าน และสังเกตุสุขภาพตนเอง หมั่นล้างมือเป็นประจำ หากไปที่ผู้คนหนาแน่น ต้องใส่หน้ากาก ป้องกันการรับและแพร่กระจายเชื้อโรค

ทางด้านแล็ปวินิจฉัยโรคในห้องปฏิบัติการนั้น มี 4 แห่ง จากเดิม 2 แห่ง ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพิ่มเติมที่โรงพยาบาลราชวิถี และโรงพยาบาลจุฬาฯอีก 1 แห่ง และกำลังขยายอีก โดยโรงพยาบาลรามา และศิริราช ก็จะพัฒนาให้ตรวจได้เช่นกัน  ซึ่งต้องทำตามมาตรฐานสากล และหากเอกชนมีความพร้อม ก็รับตรวจได้ในอนาคต

830087
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย

ในการพัฒนาห้องปฏิบัติการในจังหวัดต่างๆ กรมวิทยาศาสตร์ฯ มีแผนขยายอีก 14 แห่ง ในจังหวัดต่างๆ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ นครราชสีมา อุบลราชธานี อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ตรัง สงขลา ภูเก็ต เพราะเชื้อตายภายใน 5-6 ชม. หากต้องขนส่งมาตรวจกรุงเทพ อาจไม่พบเชื้อ สามารถแปลผลได้ภายใน 3 ชม. ขณะเดียวกัน ได้เตรียมชุดตัวอย่างสำหรับตรวจ และรับตรวจเพิ่มขึ้น 

ทางด้านการคัดกรองที่สนามบิน เน้นผู้ป่วยที่มาจากจีนทุกคน ให้มาผ่านจุดคัดกรอง โดยได้บูรณาการ นอกจากกรมควบคุมโรคแล้ว ยังมีหน่วยงานอื่นๆมาสนับสนุน จากสำนักงานปลัดกระทรวง กรมการแพทย์ รวมถึงได้รับความร่วมมือจากทหาร ตำรวจ ช่วยเพิ่มการคัดกรอง สนับสนุนงานด่านต่างๆ และแจกคำแนะนำสุขภาพ

830094

“พี่น้องประชาชนต้องระวัง โดยหาทางป้องกัน ดูแลเช่นเดียวกับโรคทางเดินหายใจทั่วไป หมั่นล้างมือเสมอ และไม่ใช้มือสัมผัสตาปากโดยไม่จำเป็น กินร้อนช้อนกลาง และใช้หน้ากากอนามัย ทำให้ร่างกายแข็งแรง พักผ่อนให้พียงพอ ทางด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ตรวจติดตามผู้สงสัย ผู้สัมผัสใกล้ชิด 30-40 คน โดยมีการติดตามเป็นระยะ เพื่อค้นหาป้องกัน ส่วนฟ้าทะลายโจร ใช้สำหรับโรคทางเดินหายใจทั่วไป เป็นการรักษาทั่วไป แต่จะป้องกันรักษา 100% หรือไม่ ต้องคอยติดตามผลต่อไป”

ทีมแพทย์ สาธารณสุขเน้นว่า การที่ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 202 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่กระโดดมาก เพราะกระทรวงสาธารณสุขได้ขยายนิยามผู้ป่วยสงสัย จากเดิมเป็นผู้เดินทางมาจากจีน เป็นคนไทยที่มีอาชีพใกล้เคียง หรือคนไทยที่มีอาชีพต้องสัมผัส หรือเจอหน้าคนจีน เพื่อให้เราได้เจอโรคอย่างรวดเร็ว โดยทั้งหมดนอนอยู่ที่โรงพยาบาล

830086
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์

ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำว่า เรากำลังช่วยกันทำให้สังคมมี “สติ” มากขึ้น พร้อมกับอธิบายสถานการณ์ล่าสุดว่า สำหรับความรุนแรงของโรคลดลงระดับไหนนั้น จากข้อมูลที่ดีที่สุดที่เรามี ตอบได้ยาก มีหลายกระแส ต้องดูยอดผู้ป่วยจากจีนเป็นหลัก ปัจจุบันมีคนไข้ 5,000 คน เสียชีวิต 200 คน หากดูตัวเลขนี้ถือว่าสูง และที่เหลือ 4,000 คน ก็ไม่หมายถึงเสียชีวิตทั้งหมด ต้องรอดูต่อไป

ตัวเลขชุดนี้นับเฉพาะผู้ป่วยรุนแรง แต่ทางการจีนไม่ได้เฝ้าระวัง และตามคนไข้ที่มีอาการอ่อน หรือไม่มีอาการ ไม่มีการเรียกมาตรวจเลย ตัวเลขที่ออกมา จึงเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ตรวจเฉพาะคนมีอาการรุนแรงเท่านั้น คนที่อาการไม่รุนแรงมีจำนวนมากที่ไม่ได้ตรวจ

แล้วคาดการณ์ผู้ป่วยอาการน้อยๆมีเท่าใด นพ.ธนรักษ์ ย้ำว่า ใช้วิธีคาดเดา บางคนคาดว่ามีคนไข้ในจีนแสนคน รายงานจริงๆ 5,000 คน ตัวเลขนี้เป็นการคาดเดาทางวิทยาศาสตร์ เราก็มาจินตนาการต่อ หากเป็นอย่างนั้น มีคนป่วยแสนคน ตาย 200 ก็ถือว่าเป็นตัวเลขค่อนข้างสูง แต่ทุกอย่างเป็นการคาดเดาหมด

และประเมินต่อว่า การระบาดจะไปไหนถึงไหนนั้น เราดูจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ใช้เวลา 6- 9 เดือน สถานการณ์จึงจะคงที่ จากนั้นจะระบาดเป็นช่วงๆ เทียบไวรัสโคโรนาตอนนี้ การแพร่ระบาดในจีน อยู่ในช่วงขาขึ้น เดือนนี้เพิ่งเป็นเดือนแรก ไม่ต้องห่วงเราจะเห็นหนังชีวิต เพราะอีกนานกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

สำหรับมาตรการปิดเมืองห้ามคนออกนอกเคหะสถานของจีน ก็ทำไม่กี่เมือง แต่การระบาดไปมากกว่า 1 จังหวัด จะแพร่ระบาดไปในจังหวัดอื่นๆ หากมาตการของจีนดี ก็จะหยุดได้ ทำให้ช่วงพีคของโรคช้าลง หรือยืดออกไป เท่่ากับชะลอการระบาด

“ประเทศที่มีการแพร่กระจายของโรค หากไม่สามารถนำไปสู่จุดที่ไม่มีการแพร่ระบาดได้ การแพร่ระบาดก็จะเดินต่อไป เป็นเวลา 6-9 เดือน หรือ อาจนานกว่านั้นกว่าจะถึงช่วงพีค สำหรับประเทศไทย เราต้องเตรียมการไปถึงขั้นนั้น หลายสถานบันพยากรณ์ ว่าทุกประเทศเสี่ยงปานกลาง เพราะมีผู้ป่วยกระจายตัว มีรายงานว่า แม้แต่ยุโรปก็สามารถแพร่ระบาดได้”

เขา อธิบายว่า หากชะลอจุดพีคได้ เท่ากับชะลอจำนวนผู้ป่วยไปออกัน ที่โรงพยาบาลจากหลักพัน คนแน่นโรงพยาบาล ไม่มีอุปกรณ์เพียงพอ ลดเหลือร้อย โรงพยาบาลก็ทำงานง่ายขึ้น ประสิทธิภาพการดูแลรักษาพยาบาลก็จะดีขึ้น เพราะไทย ไม่ใช่ประเทศร่ำรวย มีข้อจำกัดหลายอย่าง วันนี้หลายโรงพยาบาลคนใช้บริการแน่นมากอยู่แล้ว ดังนั้นการชะลอผู้ป่วยไปโรงพยาบาลได้ ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ซึ่งทุกประเทศทำเหมือนกันหมด

” การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา จากคนสู่คน เกิดมานานแล้ว เราเตรียมไปถึงขั้นระบาดใหญ่ในไทยด้วยซ้ำไป แสดงให้เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้ประมาท เรามองไปข้างหน้า และเตรียมแผนรองรับไว้ทุกทางออกที่จะเป็นไปได้ และพยายามเต็มที่ ที่จะคอยควบคุมสถานการณืให้คนไทย สามารถมีชีวตประจำวันได้ระดับสมเหตุสมผล ทุกคนหลุดพ้นไปได้ และไม่บอบช้ำเกินไป “

 

Avatar photo