โควิดวันนี้ 2 มิถุนายน 2565 นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 533,538,507 คน รักษาตัวหายแล้ว 504,389,201 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 6,315,712 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้นมา 570,449 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 1,425 ราย
สถานการณ์ โควิดวันนี้ 2 มิถุนายน 2565
Worldometer เว็บไซต์รายงานข้อมูลโควิด-19 ล่าสุด ที่รวบรวมมาจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก แสดงให้เห็นว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สหรัฐพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 95,004 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมล่าสุดที่ 86,146,955 ราย และพบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 347 ราย ทำให้มียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,032,410 ราย มากสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก
ขณะที่หลายประเทศในยุโรป ยังเจอกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 52,361 ราย ฝรั่งเศส 26,144 ราย อิตาลี 18,391 ราย และรัสเซีย 4,151 ราย
สำหรับ การระบาดใหญ่ในแถบอเมริกาใต้นั้น อยู่ในภาวะที่เริ่มทรงตัว โดยบราซิล ซึ่งติดอยู่ในอันดับ 3 ของประเทศที่มียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิดมากสุดในโลก พบผู้ติดเชื้อใหม่ 40,979 ราย และชิลี เจอผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 7,580 ราย
สถานการณ์ระบาดในเอเชีย ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อใหม่ล่าสุด ที่ 19,982 ราย เกาหลีใต้ ที่ 15,777 ราย และอินเดียที่ 4,372 ราย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลการศึกษาใหม่จากวารสารการแพทย์แลนเซต เรสพิราทอรี เมดิซิน (Lancet Respiratory Medicine) ระบุว่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แบบฉีดพ่นจมูกที่จีนพัฒนา มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทดลองในมนุษย์ระยะแรก
เมื่อเทียบกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อในปัจจุบัน วัคซีนตัวใหม่ “ดีเอ็นเอส1-อาร์บีดี” (dNS1-RBD) เป็นวัคซีนโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเชื้อเป็นที่อ่อนกำลังลง แบบฉีดพ่นจมูก 2 โดส ซึ่งถูกร่วมพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเซี่ยเหมิน มหาวิทยาลัยฮ่องกง และบริษัท ปักกิ่ง ว่านไท่ ไบโอโลจิคัล ฟาร์มาซี เอ็นเทอร์ไพรส์
คณะนักวิจัยดำเนินการทดลองระยะ 1 และระยะ 2 ที่หลายโรงพยาบาลในมณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 จนถึงกรกฎาคม 2564 โดยมีอาสาสมัครผู้ใหญ่สุขภาพดี อายุ 18-86 ปี มากกว่า 1,000 คน เข้าร่วมการทดลอง ซึ่งจัดทำขึ้นแบบสุ่มตัวอย่าง ปกปิดข้อมูลสองทาง และควบคุมด้วยยาหลอก
การศึกษาพบกลุ่มผู้รับวัคซีนดีเอ็นเอส1-อาร์บีดี ร้อยละ 40 มีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีนโดสสองครบ 1 เดือน ซึ่งสูงกว่าในกลุ่มยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนั้นผู้รับวัคซีนดีเอ็นเอส1-อาร์บีดี ทุกคนสามารถทนผลข้างเคียงได้ดี และพบประสิทธิภาพการป้องกันในกลุ่มคนอายุมากกว่า (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ระดับเดียวกับกลุ่มคนอายุน้อยกว่า (อายุ 18-59 ปี)
ด้านอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีนส่วนใหญ่ มีความคล้ายคลึงอาการไข้หวัดใหญ่ที่ไม่รุนแรงหรือปานกลาง เช่น น้ำมูกไหล มีไข้ และเมื่อยล้า ทว่าไม่มีรายงานพบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์รุนแรงแต่อย่างใด
การศึกษาเผยว่าขณะนี้วัคซีนดังกล่าวอยู่ระหว่างการทดลองระยะ 3 ที่มีอาสาสมัครเข้าร่วมจำนวนมากขึ้นในฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ เวียดนาม และโคลอมเบีย เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนสัญชาติจีนตัวนี้
ทั้งนี้ การทดลองก่อนการทดสอบในมนุษย์เผยว่าวัคซีนดีเอ็นเอส1-อาร์บีดี มอบการป้องกันที่รวดเร็ว ยาวนาน และครอบคลุมต่อเชื้อไวรัสฯ ในหนูทดลอง โดยคณะผู้ผลิตวัคซีนยังระบุว่าผลการป้องกันเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เบตา ยังคงได้ผลดีเท่ากับเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ดั้งเดิม หลังจากฉีดวัคซีนตัวนี้สองโดสครบ 9 เดือน
ส่วนในอาเซียน เวียดนามรายงานการพบผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 1,047 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 10,720,426 ราย มากสุดในภูมิภาค โดยมียอดสะสมผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ 43,079 ราย
อินโดนีเซียรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดวันนี้ จำนวน 368 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 6,055,341 ราย มากสุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน โดยพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวม 156,594 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ใครว่าไม่ร้าย! ผลวิจัยสหรัฐ ระบุ ‘โอไมครอน’ ทำให้ผู้ติดเชื้อ ‘มีอาการรุนแรง’ ไม่ต่างจากสายพันธุ์อื่น
- ‘ฮ่องกง’ คลายมาตรการคุมโควิด เลิกบังคับสวมหน้ากาก ให้เปิดบาร์ได้ถึงตีสอง
- ‘ลาว’ หวั่น ยอดติดโควิด-19 พุ่ง หลังคนแห่ฉลองปีใหม่ลาว
