COVID-19

‘โมเดอร์นา’ มองแนวโน้ม ‘เข็ม 4’ มาแน่ ชี้ เข็มบูสเตอร์ประสิทธิภาพลดไปเรื่อย ๆ

ซีอีโอโมเดอร์นา ชี้ อาจต้องฉีดวัคซีนต้านโควิดเข็ม 4 ปลายปีนี้ เพื่อเพิ่มการปกป้อง เนื่องจากประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มบูสเตอร์ จะลดลงไปเรื่อย ๆ

นายสเตฟาน บันเซล หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) โมเดอร์นา อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้นมีแนวโน้มลดลง เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ประชาชนอาจต้องฉีดเข็มที่ 4 ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ เพื่อเสริมการป้องกัน

โมเดอร์นา

นายบันเซลกล่าวว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว มีแนวโน้มที่จะได้รับการป้องกันเพียงพอตลอดช่วงฤดูหนาว ซึ่งมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในขณะที่ผู้คนมาอยู่รวมกันภายในอาคาร เพื่อหนีจากอากาศที่หนาวเย็น

อย่างไรก็ตาม นายบันเซลกล่าวว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มบูสเตอร์นั้น อาจลดลงเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน เช่นเดียวกับวัคซีน 2 โดสแรก

“ผมคงจะแปลกใจถ้าข้อมูลที่จะออกมาในอีกไม่กี่สัปดาห์บ่งชี้ว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มบูสเตอร์ยังคงดีอยู่แม้เวลาผ่านไป ผมว่ามันไม่เป็นอย่างนั้น เราพูดเสมอว่าไวรัสจะไม่หายไป เราจึงต้องอยู่ร่วมกับมัน”

ซีอีโอรายนี้ เปิดเผยว่า  รัฐบาลหลายประเทศ รวมถึงอังกฤษ และเกาหลีใต้ ได้สั่งซื้อวัคซีนเข็มบูสเตอร์เตรียมไว้แล้ว โดยเขาแสดงความเชื่อมั่นว่า จะต้องมีการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ และปีต่อ ๆ ไป โดยผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภาวะโรคประจำตัว อาจต้องฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปี

โมเดอร์นา

ฉีดเข็มบูสเตอร์โมเดอร์นา ป้องกันสูง

เมื่อเดือนที่แล้ว ยักษ์เวชภัณฑ์สหรัฐรายนี้ ได้เผยแพร่ข้อมูลเบื้องต้น ที่แสดงให้เห็นว่า การฉีดวัคซีนโควิดเข็มบูสเตอร์ขนาด 50 ไมโครกรัม จะทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ที่มีความสามารถในการต้านการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน เพิ่มขึ้นถึง 37 เท่า  ส่วนการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ขนาด 100 ไมโครกรัมจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโอมิครอนเป็น 83 เท่า

นายบันเซล กล่าวด้วยว่า การระบาดของโอไมครอน อาจช่วยเร่งการเปลี่ยนผ่าน จากภาวะวิกฤติ ที่เกิดจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ที่ผู้คนมีภูมิคุ้มกันเพียงพอ จนทำให้ไวรัสโควิด ไม่ได้กลายมาเป็นปัจจัยที่สร้างความวุ่นวายให้กับการดำเนินชีวิตประจำวันอีกต่อไป

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo