COVID-19

‘สหรัฐ’ ไฟเขียว ‘ยาเม็ดรักษาโควิด’ ไฟเซอร์ รักษาที่บ้าน-ใช้กับเด็ก 12 ปีขึ้นไป

อย.สหรัฐ ไฟเขียว ใช้ยาเม็ดรักษาโควิดของไฟเซอร์ เป็นกรณีฉุกเฉิน สำหรับการรักษาที่บ้าน และใช้ได้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป การเคลื่อนไหวที่ถือเป็น หลักชัยครั้งสำคัญ ที่อาจทำให้เกิดการปฏิวัติการต่อสู้กับเชื้อไวรัสชนิดนี้

วีโอเอ รายงานว่า สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) หรืออย.สหรัฐ  อนุมัติให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ต่อยารักษาโควิด-19 ของ ไฟเซอร์ อิงค์ สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ทำให้ยาสูตรนี้เป็นยารักษาโควิดที่ใช้รับประทาน และใช้รักษาอาการที่บ้านได้สูตรแรก และอาจมีบทบาทสำคัญในการรับมือเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันะุ์ สายพันธุ์โอไมครอนได้

ข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกของไฟเซอร์ ระบุว่า ยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) นี้มีประสิทธิผลเกือบ 90% ในการป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเกิดอาการร้ายแรง จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงป้องกันการเสียชีวิตได้

shutterstock 2076509368

ไฟเซอร์ บอกด้วยว่า ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการล่าสุด แสดงให้เห็นว่า ยาสูตรนี้ยังมีประสิทธิผลต่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนด้วย

ทั้งนี้ ไฟเซอร์เพิ่มกำลังการผลิตยาดังกล่าวในปีหน้าจากเดิม 80 ล้านชุดเป็น 120 ล้านชุด  ทั้งยังประกาศความพร้อม จัดส่งยาสูตรนี้ในสหรัฐได้ทันที โดยยาชุดนี้ของไฟเซอร์ ประกอบด้วยยาสองตัว คือยาสูตรใหม่ และยาสูตรเดิม คือ ริโทนาเวียร์ (ritonavir)

อเมช อดัลจา นักวิชาการอาวุโส สถาบันความมั่นคงด้านสุขภาพ จอห์น ฮอพกินส์ แสดงความเห็นว่า การอนุมัติยาแพกซ์โลวิดเป็นก้าวย่างสำคัญในการรับมือโรคโควิด-19

อย่างไรก็ตาม ยาสูตรนี้อาจขาดตลาดได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และผู้ป่วยควรได้รับการรักษาทันที ที่ได้รับการวินิจฉัย ซึ่งสหรัฐยังเผชิญความท้าทายในการตรวจหาเชื้อไวรัสอย่างทั่วถึงอยู่

ไฟเซอร์ ระบุว่า ทางบริษัทพร้อมจัดส่งยา 180,000 ชุดภายในปีนี้ โดยสัญญาของรัฐบาลสหรัฐที่จัดซื้อยาจำนวน 10 ล้านชุด ระบุราคายาที่ 530 ดอลลาร์ต่อหนึ่งชุด

การอนุมัติให้ใช้ยาตัวดังกล่าว เป็นกรณีฉุกเฉินนั้น ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐ กำลังรับมือกับไวรัสโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ โดยมีไวรัสโควิดกลายพันธุ์ “โอไมครอน” เป็๋นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในครั้งล่าสุด ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศว่า รัฐบาลกลางจะเร่งฉีดวัคซีน และเปิดศูนย์ตรวจเชื้อไวรัสมากขึ้น

อย.สหรัฐ บอกด้วยว่า ยาสูตรใหม่นี้ จะใช้ได้ตามใบสั่งยาของแพทย์เท่านั้น และควรมีการจ่ายยา หลังผู้ป่วยตรวจพบเชื้อโควิดโดยเร็วที่สุด โดยควรมีการใช้ยาภายใน 5 วัน หลังผู้ป่วยแสดงอาการ ควรรับประทานทุก 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 วัน

shutterstock 2015416541

ไฟเซอร์ระบุว่า แม้การทดลองทางคลินิกจะไม่ได้ทดลองในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่การรับประทานยาในปริมาณดังกล่าว ควรส่งผลต่อระดับความเข้มข้นของยาในเลือดในสัดส่วนเท่ากันกับผู้ใหญ่ ต่อผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และมีน้ำหนักอย่างน้อย 40 กิโลกรัม

ส่วนยาสูตรริโทนาเวียร์นั้น อาจมีปฏิกิริยากับยาสูตรอื่นได้ ซึ่งไฟเซอร์ระบุว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ควรลดยาปริมาณยาสูตรอื่น ขณะรับการรักษาโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ไฟเซอร์วางแผนยื่นขออนุมัติให้ อย.สหรัฐ รับรองยาสูตรนี้อย่างสมบูรณ์ในปีหน้า และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานยายุโรป (อีเอ็มเอ) ระบุว่า ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) สามารถใช้ยาแพกซ์โลวิดได้ แม้ว่าการตรวจสอบเพื่อรับรองยาสูตรดังกล่าว จะยังไม่เสร็จสิ้นก็ตาม

ไฟเซอร์ ยังตกลงให้บริษัทผู้ผลิตต่าง ๆ ผลิตยาสูตรนี้ให้ประเทศรายได้ต่ำและปานกลาง 95 ประเทศ ผ่านองค์กรสิทธิบัตรยาร่วม หรือ Medicines Patent Pool โดยคาดว่าจะมีการผลิตยาราคาถูกได้ในปีหน้า

นอกจากนี้ ยาของไฟเวอร์แล้ว อย.สหรัฐ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณายาโมลนูพิราเวียร์ (molunpiravir) ของเมอร์ค แอนด์ โค โดยผลการทดลองระบุว่า ยาสูตรนี้ลดความเสี่ยงการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตได้ 30%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo