COVID-19

‘สหรัฐ’ เล็งซื้อยาโควิดไฟเซอร์ 10 ล้านคอร์ส หลังยื่นขออนุมัติใช้ฉุกเฉินจากอย.

คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะจัดซื้อยาโควิดไฟเซอร์ “แพกซ์โลวิด” จำนวน 10 ล้านคอร์สในสัปดาห์นี้ การเคลื่อนไหวที่มีขึ้น หลังบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่รายนี้ ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติการใช้ยาเป็นการฉุกเฉินจาก อย.สหรัฐแล้ว 

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ไฟเซอร์ เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จใจการพัฒนายาเม็ดรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 “แพกซ์โลวิด” (Paxlovid)  หลังพบผลทดสอบประสิทธิภาพ ช่วยลดโอกาสป่วยหนักต้องเช้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และเสียชีวิตในหมู่คนไข้ที่มีความเสี่ยงสูงเกือบ 90%  ซึ่งนับว่าสูงกว่ายาโมลนูพิราเวียร์ของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ที่มีประสิทธิภาพเพียง 50%

ยาโควิดไฟเซอร์

การคาดการณ์ถึงการจัดซื้อยาแพกซ์โลวิดมีขึ้น หลังจากที่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 พ.ย.) ไฟเซอร์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นเรื่องสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) หรือ อย.สหรัฐ เพื่อขออนุมัติใช้ยาตัวนี้ ในกรณีฉุกเฉิน

คาดอนุมัติยาโควิดไฟเซอร์ หลังโมลนูพิราเวียร์ 

รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้ อย.สหรัฐ กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ และแพกซ์โลวิดเป็นกรณีฉุกเฉิน โดยคาดว่าจะให้การอนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์ ในช่วงต้นเดือนธันวาคม และจะให้การอนุมัติยาแพกซ์โลวิดหลังจากนั้น

ทั้งนี้ ผู้ที่จะรับประทานยาโควิดไฟเซอร์ จะต้องรับทั้งยาแพกซ์โลวิด พร้อมกับยาริโทนาเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาผู้ติดเชื้อ HIV โดยยา 1 คอร์สของไฟเซอร์ ประกอบด้วย ยาแพกซ์โลวิด 20 เม็ด และริโทนาเวียร์ 10 เม็ดสำหรับผู้ป่วย 1 คน

โดยผู้ป่วยจะรับประทานยาแพกซ์โลวิดขนาด 150 มิลลิกรัม 2 เม็ดต่อครั้ง คู่กับยาริโทนาเวียร์ 100 มิลลิกรัม 1 เม็ดต่อครั้ง วันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน

ข้อมูลพบว่ายาเม็ดของไฟเซอร์ช่วยลดโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ป่วยหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ 89% เมื่อเริ่มให้ยาภายใน 3 วันแรก ที่เริ่มแสดงอาการ ไม่มีผู้เสียชีวิตในกลุ่มผู้ที่ได้รับการรักษา

ขณะเดียวกันผลการทดลองก็ออกมาในแบบเดียวกัน ในกรณีที่เริ่มให้ยาภายใน 5 วันแรกที่เริ่มแสดงอาการ โดยพบผลข้างเคียงเกิดขึ้นในคนไข้อาสาสมัครราว ๆ 1 ใน 5 คน ทั้งในคนที่ได้รับยาจริง และยาหลอก โดยคนเหล่านี้มีอาการระดับปานกลาง

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo