COVID-19

อีกรอบ! ‘ยุโรป’ กลับมาเป็น ‘ศูนย์กลางโควิดระบาด’ รอบใหม่ ติดเชื้อเกินครึ่งของโลก

“อนามัยโลก” ระบุ “ยุโรป” กลับมาเป็นศูนย์กลางโควิดระบาด อีกครั้ง มีผู้ติดเชื้อคิดเป็นสัดส่วนถึง 59% ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกในปัจจุบัน  และมีแนวโน้มที่จำนวนผู้เสียชีวิต อาจทะยานขึ้นถึง 500,000 ราย

นายฮานส์ คลูเกอ ผู้อำนวยการภาคพื้นยุโรป ของ องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า อัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ ของ 53 ประเทศทั่วทั้งยุโรป สร้างความกังวลอย่างมาก มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยที่ไวรัสโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา เป็นสาหตุที่ทำให้การระบาดพุ่งสูงขึ้น

ศูนย์กลางโควิดระบาด

เขาบอกด้วยว่า ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลของภูมิภาคนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าในช่วง 1 สัปดาห์ โดยเจ้าหน้าที่มองเห็นแนวโน้มการติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นในทุกกลุ่มอายุ แต่ที่ทำให้เกิดความกังวลมากสุด คือ การติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในกลุ่มประชากรสูงวัย ซึ่งหมายความถึง การที่จะมีผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนัก และเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น โดยในปัจจุบัน ราว 75% ของผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด เป็นกลุ่มที่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป

กลุ่มประเทศในภูมิภาคยุโรปขององค์การฯ ตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นกว่า 55%  ในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา และปัจจุบันครองสัดส่วนผู้ป่วย 59% ของยอดผู้ป่วยทั่วโลก และ 48% ของยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลก โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน ตรวจพบผู้ป่วยรายใหม่ 1.8 ล้านราย และผู้เสียชีวิตรายใหม่ 24,000 ราย

หากแนวโน้มยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในยุโรปจะพุ่งแตะ 500,000 รายภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขณะที่ 43 ประเทศในยุโรปจะเผชิญปัญหาจำนวนเตียงในโรงพยาบาลไม่พอรองรับผู้ป่วย

ทวีปยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่อีกครั้ง เหมือนเมื่อ 1 ปีก่อน เป็นอีกครั้งที่อยู่ในจุดวิกฤติ ที่โรคโควิด-19 จะกลับมาระบาดใหญ่

ศูนย์กลางโควิดระบาด

ฉีดวัคซีนไม่ครอบคลุม เหตุกลับมาเป็นศูนย์กลางโควิดระบาดรอบใหม่

นายคลูเกอ บอกด้วยว่า ขณะนี้ ตัวเลขผู้ป่วยสะสมในภูมิภาคยุโรป สูงกว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก แปซิฟิกตะวันตก และแอฟริการวมกัน ซึ่งจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์นี้ เป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนที่ไม่ครอบคลุม การผ่อนปรนมาตรการทางสังคม และสาธารณสุข

ประชากรทั่วภูมิภาคยุโรปที่ได้รับวัคซีนครบโดส เฉลี่ยอยู่ที่เพียง 47% แม้จะมี 8 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้ประชากรเกิน 70% แล้ว แต่ยังมี 2 ประเทศ ที่อัตราการฉีดวัคซีนยังคงต่ำกว่า 10%

เขาย้ำด้วยว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีประสิทธิภาพป้องกันอาการป่วยรุนแรง และการเสียชีวิต ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งกระบวนการฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ดี เขาไม่แนะนำให้รัฐบาลในภูมิภาคกลับไปบังคับใช้ มาตรการล็อกดาวน์ แต่เรียกร้องให้ปรับใช้ มาตรการที่ผ่านการทดสอบและทดลองแล้วว่ามีประสิทธิภาพพอที่ประชาชนจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้

นายคลูเกอ บอกด้วยว่า หากประชากรในภูมิภาคสวมหน้ากากอนามัยถึง 95% ก็อาจช่วยรักษาชีวิตคนได้มากถึง 188,000 คน จากจำนวนคนครึ่งล้าน ที่อาจเสียชีวิตก่อนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พร้อมเสริมว่าการตรวจโรค การติดตามผู้ติดต่อสัมผัส การระบายอากาศในพื้นที่ในร่ม การเว้นระยะห่างทางสังคม ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกัน

ศูนย์กลางโควิดระบาด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo