องค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำภูมิภาคยุโรป รายงานยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในพื้นที่รวมอยู่ที่ 60,093,393 ราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิต 1,220,486 ราย
“โรคระบาดใหญ่จะสิ้นสุดในไม่ช้า แต่ที่น่าเศร้าคือมีผู้ป่วยเสียชีวิตมากกว่า 1.2 ล้านรายแล้ว” โดริต นิตซาน ผู้อำนวยการฉุกเฉิน ประจำภูมิภาคยุโรป ของ WHO แถลง และว่า สิ่งสำคัญคือ ทุกประเทศต้องร่วมกันปกป้องประชากรกลุ่มเปราะบางที่สุด และกลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ
นิตซาน ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราการฉีดวัคซีนระดับต่ำทั่วภูมิภาคยุโรป โดยเฉพาะกลุ่มประชากร ที่ควรได้รับวัคซีนก่อน อาทิ ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป บุคลากรการแพทย์ ผู้อาศัยอยู่ในสถานดูแลระยะยาว และผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งอาจนำไปสู่การเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น
“เราต้องเร่งฉีดวัคซีนให้เท่าเทียมกันในทุกประเทศอย่างรวดเร็ว เพื่อยุติการระบาดใหญ่ รวมถึงสนับสนุนการผลิต และแบ่งปันวัคซีนตามความเหมาะสม เพื่อปกป้องประชากรกลุ่มเปราะบางในทุกประเทศ”
ผอ. WHO บอกด้วยว่า การเดินทางในขณะนี้ ยังมีความเสี่ยงอยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ และแพร่เชื้อมากขึ้น
“หากคุณต้องการเดินทาง ก็ขอให้นึกถึงความจำเป็นและประเมินความเสี่ยง การตัดสินใจของคุณสำคัญต่อการยุติโรคระบาดใหญ่ครั้งนี้”
ท่าทีดังกล่าว ถือเป็นคำเตือนล่าสุดของ องค์การอนามัยโลก ที่มีต่อภูมิภาคยุโรป หลังเมื่อเดือนที่แล้ว WHO ออกมาบอกว่า การพบปะผู้คน การเดินทาง การรวมตัวกัน และการผ่อนปรนข้อจำกัดทางสังคม เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ยอดผู้ติดโควิด-19 ในยุโรป เพิ่มสูงขึ้นครั้งใหม่
WHO บอกด้วยว่า เชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา อาจระบาดแซงหน้าสายพันธุ์อัลฟาอย่างรวดเร็ว ผ่านการแพร่ระบาดซ้ำ ๆ หลายครั้ง และทำให้ยอดผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น
องค์การอนามัยโลก ยังเตือนว่า สายพันธุ์เดลตา จะเป็นสายพันธุ์หลักของการแพร่ระบาดในภูมิภาคยุโรป ภายในเดือนสิงหาคมนี้ และว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ยอดการฉีดวัคซีนที่ลดต่ำ และการที่ประชาชนต่างครัวเรือนพบปะกันมากขึ้น จะทำให้ยอดผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล และยอดการเสียชีวิตพุ่งสูงอีกระลอกก่อนฤดูใบไม้ร่วง
ที่มา : สำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ยอดติดเชื้อพุ่ง!! ‘สหภาพยุโรป’ ปลด ‘ไทย’ พ้นประเทศปลอดภัยจากโควิด
- เที่ยวบินแรก! การบินไทยขนนักท่องเที่ยวยุโรป เข้า’ภูเก็ต’
- ‘ยุโรป’ ย้ำ วัคซีนโควิด ‘แอสตร้าเซนเนก้า’ มีทั้ง ‘ประโยชน์-ความเสี่ยง’ ต่อทุกวัย