COVID-19

อียูสอบวัคซีนโควิด-19 ‘จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน’ หลังพบลิ่มเลือด

องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เปิดเผยการตรวจสอบกรณีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จำนวน 4 ราย เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลังรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยแจนเซน (Janssen) บริษัทเภสัชภัณฑ์ในเครือจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson)

วัคซีนโควิด

แถลงการณ์จากองค์การฯ ระบุว่าคณะกรรมการด้านความปลอดภัยได้เริ่มประเมินกรณีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งเกิดขึ้นจากการแข็งตัวของลิ่มเลือด และส่งผลให้หลอดเลือดอุดตันในผู้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแจนเซน

กลุ่มผู้ป่วยข้างต้นที่เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับเกล็ดเลือดต่ำขั้นรุนแรง แบ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ระหว่างโครงการฉีดวัคซีน จำนวน 3 ราย ส่วนรายที่ 4 เกิดขึ้นระหว่างการทดลองทางคลินิก โดยมีหนึ่งรายเสียชีวิต

องค์การฯ เผยว่าความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนของแจนเซนกับภาวะดังกล่าวยังไม่ชัดเจน โดยคณะกรรมการด้านความปลอดภัยจะตัดสินใจว่าจำเป็นต้องดำเนินการด้านกฎระเบียบ อาทิ การเปลี่ยนแปลงฉลากหรือไม่

ปัจจุบันวัคซีนของแจนเซน แบบฉีดโดสเดียว ได้รับอนุมัติให้ใช้งานกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ เท่านั้น และผ่านการอนุมัติในสหภาพยุโรป (EU) เมื่อเดือนมีนาคม แต่ยังไม่มีประเทศสมาชิกใดเริ่มใช้วัคซีนตัวดังกล่าว

ขณะเดียวกันองค์การฯ ขยายการตรวจสอบวัคซีนของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) หลังมีรายงานภาวะเลือดออกผิดปกติ โดยเมื่อวันศุกร์ (9 เม.ย.) องค์การฯ ได้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีนของแอสตราเซเนกากับอาการเส้นเลือดฝอยรั่วในผู้รับวัคซีน 5 ราย ซึ่งภาวะที่เลือดรั่วไหลจากหลอดเลือดขนาดเล็กที่สุดเข้าสู่กล้ามเนื้อและช่องว่างภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายบวมและความดันโลหิตลดลง

ทั้งนี้ องค์การฯ ยืนยันว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกา มีความเชื่อมโยงกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

Avatar photo