โควิดวันนี้ 18 มี.ค. นับถึงเวลา 09.00 น. ทั่วโลกมี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 121,805,497 คน รักษาตัวหายแล้ว 98,199,744 คน และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2,691,832 ราย
ขณะนี้ สหรัฐ มียอด ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (30,294,798) รองลงมาคือ บราซิล (11,700,431) ตามด้วย อินเดีย (11,474,302) รัสเซีย (4,418,436), สหราชอาณาจักร (4,274,579), ฝรั่งเศส (4,146,609), อิตาลี (3,281,810) และสเปน (3,206,116)
ประเทศที่มีจำนวน ผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 ล้านราย ได้แก่ ตุรกี เยอรมนี โคลอมเบีย อาร์เจนตินา และเม็กซิโก
ส่วนประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 1 ล้านราย ได้แก่ โปแลนด์ อิหร่าน แอฟริกาใต้ ยูเครน อินโดนีเซีย เปรู สาธารณรัฐเชค และเนเธอร์แลนด์
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (550,649) ตามมาด้วยบราซิล (285,136), เม็กซิโก (195,119), อินเดีย (159,250) และสหราชอาณาจักร (125,831)
องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่า ประเทศต่าง ๆ ควรใช้วัคซีนโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าต่อไป ในระหว่างที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ WHO ยังคงทำการพิจารณาทบทวนความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าว หลังมีรายงานการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนบางราย
“การฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ช่วยลดอาการป่วย หรือเสียชีวิตจากโรคอื่น โดยอาการลิ่มเลือดอุดตันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อย และอาการลิ่มเลือดอุดตัน ในหลอดเลือดดำ นับเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ ที่พบเห็นมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ทั่วโลก”
WHO ระบุว่า แม้เป็นเรื่องปกติที่ประเทศต่าง ๆ จะทำการแจ้งเกี่ยวกับผลข้างเคียง ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน แต่สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่า มีความเชื่อมโยงโดยตรง กับการฉีดวัคซีน
อย่างไรก็ดี ถือเป็นเรื่องดีที่จะมีการสืบค้นในเรื่องนี้ และสิ่งนี้แสดงว่า ระบบการเฝ้าระวังยังคงใช้การได้ ขณะที่ระบบการควบคุมยังคงมีประสิทธิภาพ
WHO แถลงว่า จะทำการเปิดเผยผลการสืบค้นต่อสาธารณะโดยเร็วที่สุด ทันทีที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ WHO เสร็จสิ้นการพิจารณาทบทวนความปลอดภัยของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งขณะนี้ WHO มองว่าประโยชน์ที่ได้รับจากการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีมากกว่าความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้น และขอแนะนำให้ประเทศต่างๆ ยังคงใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าต่อไป
ขณะนี้ หลายประเทศในยุโรป ต่างพากันระงับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า หลังมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากอาการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ และบางรายมีอาการลิ่มเลือดอุดตันในปอด หลังได้รับวัคซีน
ทางด้าน กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 6,825 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,437,283 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ส่วนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 162 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 38,915 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในอาเซียนเช่นกัน
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ เปิดเผยถึงตัวเลข โควิดวันนี้ 18 มี.ค. พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 4,387 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศอยู่ที่ 635,698 ราย มากสุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากอินโดนีเซีย โดยมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้น 18 ราย มาอยู่ที่ 12,866 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จับตา ‘บราซิล’ หวั่นแหล่งเพาะเชื้อ ‘โควิดกลายพันธุ์’ กระจายแล้วกว่า 25 ประเทศ
- ‘หมอธีระ’ เปิด 3 เชื้อไฟช่วงสงกรานต์ เสี่ยงทำโควิดระบาดรุนแรง!!
- จีนไฟเขียวใช้งานฉุกเฉิน ‘วัคซีนโควิด-19’ ตัวที่ 4 ผลิตจาก ‘รังไข่หนูแฮมสเตอร์’
