“หมอธีระ” เผยยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 121,669,726 คน เสียชีวิตรวม 2,688,027 คน เปิด 3 เชื้อไฟช่วงเทศกาลสงกรานต์ เสี่ยงทำ “โควิด” ระบาดรุนแรง
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat รายงาน ยอดผู้ติดเชื้อวันนี้ โดยระบุว่า สถานการณ์ทั่วโลก 18 มีนาคม 2564… คาดว่าปลายสัปดาห์นี้ ฝรั่งเศสจะแซงสหราชอาณาจักรขึ้นเป็นอันดับ 5 ของโลก และโปแลนด์จะทะลุ 2 ล้านคนเป็นประเทศที่ 14
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 504,669 คน รวมแล้วตอนนี้ 121,669,726 คน ตายเพิ่มอีก 8,161 คน ยอดตายรวม 2,688,027 คน
- อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 102,109 คน รวม 30,282,913 คน ตายเพิ่มอีก 1,335 คน ยอดตายรวม 550,292 คน
- บราซิล ติดเพิ่ม 15,397 คน รวม 11,609,601 คน
- อินเดีย ติดเพิ่ม 35,482 คน รวม 11,473,946 คน
- รัสเซีย ติดเพิ่ม 8,998 คน รวม 4,418,436 คน
- สหราชอาณาจักร ติดเพิ่มอีก 5,758 คน รวม 4,274,579 คน
- อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ตุรกี และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน
- แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
- แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็ยังมีติดเชื้อเพิ่ม ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า
- ในขณะที่แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพัน
- เกาหลีใต้ และไทย ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนเมียนมาร์ ฮ่องกง กัมพูชา และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
มองดูสถานการณ์ของอเมริกาตอนนี้ หลายรัฐยังมีจำนวนการติดเชื้อหลายพันคนต่อวัน เช่น นิวยอร์ก เท็กซัส ฟลอริด้า นิวเจอร์ซีย์ มิชิแกน เพนซิลวาเนีย จอร์เจีย เป็นต้น ความท้าทายของอเมริกาคือจะทำอย่างไรให้คนในประเทศยังคงป้องกันตัวอย่างเคร่งครัดขณะที่ยังอยู่ในช่วงที่เร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร
ข้อได้เปรียบของอเมริกาเมื่อเทียบกับประเทศอื่นคือ การมีวัคซีนที่มีสรรพคุณสูง จำนวนมากหลายชนิด ทั้ง Pfizer/Biontech, Moderna และ Johnson&Johnson และมีปริมาณเพียงพอเกินกว่าจำนวนคนในประเทศ จึงทำให้มีโอกาสสูงที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้หากฉีดได้ครบถ้วน เพียงแต่ต้องใช้เวลานานพอสมควร แต่จะทำได้จริงหรือไม่
ความยากลำบากจะอยู่ตรงที่จะทำอย่างไรให้ทุกที่ยังคงมาตรการรณรงค์ให้ป้องกันตัวและมีการปฏิบัติกันต่อเนื่องไปตลอดช่วงเวลาดังกล่าว มิฉะนั้นก็ย่อมมีโอกาสระบาดปะทุซ้ำได้ เนื่องจากจำนวนการติดเชื้อโดยรวมแม้จะลดลงกว่าเดิม แต่ยังมีปริมาณมากเฉลี่ยแล้วหลายหมื่นคนต่อวัน ซึ่งง่ายต่อการระบาดซ้ำภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์หากประมาท คงต้องเอาใจช่วยกันต่อไป
สำหรับของไทยเรา…
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้า สิ่งที่ต้องระวังมาก ๆ มีดังนี้
หนึ่ง “การจัดรดน้ำดำหัวตามประเพณี” ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำ รินน้ำ พรมน้ำ ให้ระวังเรื่องความใกล้ชิด การสัมผัส และระยะเวลาในการพบปะหรือมีปฏิสัมพันธ์กัน
ควรตระหนักถึงการระบาดภายในประเทศที่กระจายไปทั่ว จนไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่า คนที่มาพบเจอกันนั้นไม่ว่าจะเด็กเล็ก เด็กโต ผู้ใหญ่ หรือคนสูงอายุ อาจติดเชื้ออยู่โดยไม่รู้ตัว และอาจแพร่ให้แก่คนอื่นที่มาเจอกันได้
หากจะจัดตามประเพณีจริง ระวังความคิดว่า “นิดหน่อยคงไม่เป็นไร” หรือ “คนกันเองเจอกันบ่อยน่าจะเชื่อได้ว่าปลอดภัย” หรือ “VIP/VVIP/VVVIP” เพราะความคิดเช่นนี้ ไม่ว่าจะนิดหน่อย คนกันเอง คน(โคตร)สำคัญ หยวน ๆ นั้นนำมาสู่หายนะให้เห็นกันมามากแล้ว
รูปแบบที่จัดตามประเพณี ควรจัดเป็นแบบ “ประเพณีร่วมสมัย (ที่กำลังโรคระบาด)” โดยเน้นความปลอดภัยสูงสุด ทำอย่างไรให้มีการรดน้ำ รินน้ำ พรมน้ำที่ต่างจากแบบเดิม เน้นเรื่องไกลกัน ไม่สัมผัสกัน แต่ยังมีความอิ่มเอิบใจที่ได้เห็นกัน อวยพรกัน และส่งต่อไมตรีจิตและความเคารพนบนอบให้แก่กันได้
สอง “การเดินทางข้ามจังหวัด” เชื่อขนมกินได้ว่าจะมีประชาชนจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มาทำงานในเมือง เดินทางกลับไปจังหวัดบ้านเกิด ผ่านการขนส่งสาธารณะ
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง ระบาดกระจายไปทั่วโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล การเดินทางในลักษณะข้างต้นนั้นย่อมถือเป็นความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดการติดเชื้อแพร่เชื้อกันได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น ทุกพื้นที่ทุกจังหวัด จึงควรเตรียมรับมือ จัดระบบตรวจตราตรวจสอบ ถามไถ่คนที่เดินทางมาจากจังหวัดอื่นเข้ามาในพื้นที่ หากมีใครไม่สบาย ควรรีบนำเข้าสู่กระบวนการตรวจรักษา ซึ่งจำเป็นต้องดำเนินการตั้งแต่เริ่มเดินทางไปจนถึงอย่างน้อยสองสัปดาห์หลังจากเสร็จสิ้นการเดินทาง ทั้งในจังหวัดต้นทางและจังหวัดปลายทาง (ขาไป-ขากลับ)
สาม “การท่องเที่ยว” ที่เห็นโปรโมทกันนั้น ต้องเตือนกันให้ดีว่าการเดินทางท่องเที่ยวขณะนี้นั้นมีความเสี่ยง
เราเห็นรายงานการติดเชื้อตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้วว่ากระจายไปแทบทุกที่ หลายรายมีประวัติเดินทางท่องเที่ยวทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย เดินทางไปหลากหลายทั้งห้างสรรพสินค้า ตลาด ตลาดนัด ร้านอาหารร้านกาแฟแหล่งท่องเที่ยวตามจังหวัดต่างๆ รวมถึงพักแรมตามโรงแรม
ดังนั้น หากรักจะไป ก็ให้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะได้รับ วางแผนให้ดี เตรียมอาวุธป้องกันให้พร้อม ใช้อาวุธให้ถูกต้องเคร่งครัด และคอยประเมินสถานะสุขภาพของตนเองและครอบครัวด้วยว่า ระหว่างเดินทางและหลังเดินทางนั้นมีอาการผิดปกติอะไรไหม หากมี ก็ให้รีบไปตรวจรักษา อย่าปล่อยทิ้งไว้
ทั้งสามเรื่องดังกล่าวนั้นถือเป็นเชื้อไฟ ที่ไม่ว่าจะเกิดเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือหลายเรื่องขึ้นมาพร้อมกัน การระบาดรุนแรงจะตามมาได้ในเวลาไม่นาน
ขอให้เราทุกคนช่วยกันประคองตัวให้อยู่รอดปลอดภัยไปด้วยกัน
ด้วยรักและปรารถนาดี
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘หมอธีระ’ หวั่นไวรัสกลายพันธุ์ ทำระลอกสามปะทุ ลั่นศึกนี้อีกยาว!
- ‘หมอธีระ’ ชี้เชื้อ ‘โควิด’ กลายพันธุ์ ทำการระบาดในยุโรปรุนแรงขึ้นกว่าเดิม!!
- ‘หมอธีระ’ เตือนรัฐ ดื้อแพ่งจัดสงกรานต์ ระวังพังพาบก่อนฟื้น หวั่นระลอกสามตามมา