อนาคตการเมืองสหรัฐ ยังคงไม่สามารถคาดเดาได้ หลังจากที่ยังไม่มีความแน่นอนว่า เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ ครั้งนี้ พรรคไหนจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาสหรัฐ หลังการเลือกตั้งจบลงไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (8 พ.ย.)
วีโอเอ รายงานว่า จนถึงช่วงค่ำวานนี้ (9 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น พรรครีพับลิกันยังคงได้จำนวนที่นั่งมากกว่าพรรคเดโมแครตในสภาล่าง แม้ยังไม่ถึงจำนวนที่ต้องการคือ 218 ที่นั่ง เพื่อครองเสียงส่วนใหญ่ ส่วนในสภาสูง 100 ที่นั่ง ยังคงไม่มีพรรคไหนได้เกิน 50 ที่นั่งเช่นกัน
พรรคเดโมแครตได้ ส.ว.เพิ่มมา 1 ที่นั่งจากรัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อตัวแทนจากพรรคเดโมแครต จอห์น เฟตเตอร์แมน รองผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย เอาชนะ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน นพ.เมห์เม็ต ออซ ศัลยแพทย์หัวใจที่โด่งดัง จากการผันตัวมาเป็นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในรายการโทรทัศน์
อย่างไรก็ตาม พรรคเดโมแครตก็มีโอกาสสูญเสียที่นั่ง ส.ว.ในรัฐเนวาดา ที่ซึ่ง อดัม แล็กซอลต์ ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน มีคะแนนนำเจ้าของตำแหน่งเดิม คือ แคทเธอรีน คอร์เตซ มัสโท จากพรรคเดโมแครต เล็กน้อย
ส่วนสนามสำคัญที่ต้องมีการเลือกตั้งรอบชี้ขาด คือ รัฐจอร์เจีย เนื่องจากผู้สมัครทั้ง 2 คน คือ ราฟาเอล วอร์นอค ส.ว. คนปัจจุบันจากพรรคเดโมแครต และ เฮอร์เชิล วอล์คเกอร์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ต่างมีคะแนนเสียงไม่เกิน 50% ทั้งสองคน ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 6 ธันวาคม ซึ่งอาจเป็นการชี้ขาดในวันนั้นด้วยว่า พรรคใดจะครองวุฒิสภา
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 435 ตำแหน่ง และสมาชิกวุฒิสภา 35 ตำแหน่ง รวมทั้งผู้ว่าการรัฐ และสมาชิกรัฐสภาท้องถิ่นของรัฐต่าง ๆ ด้วย
ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ พรรครีพับลิกันคาดการณ์ว่า จะเกิดปรากฏการณ์ “คลื่นสีแดง” สีที่เป็นสัญลักษณ์ของพรรครีพับลิกัน ซึ่งสะท้อนถึงแรงหนุนจากประชาชน ให้ผู้แทนจากพรรครีพับลิกันเข้าไปนั่งในสภาสหรัฐอย่างท่วมท้น ในช่วงที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวอเมริกันปฏิเสธเสียงข้างมากจากฝั่งเดโมแครต หลังความล้มเหลวในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาอาชญากรรมที่พุ่งสูงขึ้นจนจนน่ากังวลในอเมริกา
แต่ความจริงที่เกิดขึ้นกลับแตกต่างจากการคาดการณ์อยู่มาก เพราะแทนที่กระแสการต่อต้านจะเกิดขึ้นแบบถล่มทลาย เพื่อสะท้อนถึงผลงานของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และพรรคเดโมแครตของเขา แต่ผลการเลือกตั้งที่เริ่มออกมากลับให้ผลที่ยากจะตีความ
นักวิเคราะห์คาดว่า การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ น่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทั้งหมดมากกว่า 115 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขของผู้ใช้สิทธิ์เมื่อ 4 ปีก่อน โดยผู้ใช้สิทธิ์ในแต่ละรัฐยังมีโอกาสออกเสียงเกี่ยวกับกฎหมายส่วนท้องถิ่นของรัฐนั้น ๆ เช่น กฎหมายเกี่ยวกับกัญชา การทำแท้ง และการพนันอย่างถูกกฎหมาย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘มาเลเซีย’ กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ 19 พ.ย. นี้
- คะแนนนิยมรัฐบาล ‘คิชิดะ’ พุ่ง 63.2% หลัง ‘แอลดีพี’ ชนะเลือกตั้ง ส.ว.ญี่ปุ่น
- ‘มาครง’ คว้าชัยเลือกตั้ง นั่งตำแหน่ง ‘ประธานาธิบดีฝรั่งเศส’ สมัย 2